น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

ไมเกรนไม่เอนเอียงกับสติปัญญา ไม่มีความแตกต่างกับผู้ที่ไม่ได้เป็น | PG&P

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักวิจัยเผย ผู้ป่วยเป็นไมเกรนสามารถเบาใจได้ เหตุไม่ส่งผลกระทบต่อสติปัญญาในระยะยาว

ไมเกรนไม่เอนเอียงกับสติปัญญา ไม่มีความแตกต่างกับผู้ที่ไม่ได้เป็น

โรคปวดศีรษะไมเกรน ปวดศีรษะข้างเดียว เป็นโรคที่เป็นกันมากในหมู่สตรี ประมาณร้อยละ 20 แม้จะเป็นกันอยู่แพร่หลาย แต่ก็ยังคงมีปัญหาที่ยังมืดมนค้างคาอยู่อีกหลายอย่างเคยมีการศึกษาที่ทำกันมากล่าวกันไปต่างๆ นานา อย่างเช่นกล่าวว่า อาจเกี่ยวโยงกับโรคสมองเสื่อมหรือสติปัญญาเสื่อมก็ได้ แต่บัดนี้โรงพยาบาลบริกแฮมและโรงพยาบาลหญิงได้ศึกษารับรองว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสติปัญญา

ทีมนักวิจัยได้ใช้ข้อมูลจากเรื่อง “การศึกษาสุขภาพของสตรี” ซึ่งทำกับผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป จำนวนเกือบ 40,000 คนพวกเขาได้รายงานผลการศึกษาว่า “เมื่อเทียบกับผู้หญิงผู้ที่ไม่มีประวัติโรคไมเกรน ผู้ที่เป็นไมเกรน ไม่ปรากฏว่าอัตราสติปัญญาเสื่อมแตกต่างกันอย่างใด ถือเป็นการค้นพบที่สำคัญทั้งแก่หมอและผู้ป่วย ผู้ป่วยและหมอต่างอุ่นใจได้ว่า การเป็นไมเกรน จะไม่มีผลกับสติปัญญาในระยะยาว”




ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

เคล็ดลับการทานง่ายๆ ในการลดน้ำหนัก | PG&P


สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ จะต้องเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารอย่างแน่นอน (ไม่งั้นจะกลัวอ้วนทำไม ใช่ไหมคะ) และนิสัยที่ชอบรับประทานนี่เอง เป็นนิสัยที่ไม่ดีที่จะทำให้ต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจกันเมื่อรับประทาน เสร็จแล้วนั่นเอง เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่สมดุล และสมเหตุผล ทำให้ลดน้ำหนักง่ายขึ้นในระยะยาว และเป็นผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งมีเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. รับประทานปริมาณให้น้อยลง ให้ทดลอง ใช้จานใบเล็ก ๆ ในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อดูนะคะ เพราะจะทำให้อาหารดูมากขึ้น นอกจากนี้แล้วให้จำไว้ว่าการรับประทานในปริมาณน้อย ๆ วันละ 4-5 ครั้ง ดีกว่าทานในปริมาณมาก ๆ วันละ 3 ครั้ง
2. จัดอาหารของคุณตามปิรามิด ให้ลำดับปริมาณอาหารจากมากไปหาน้อย คือ
มากที่สุด  
คาร์โบไฮเดรต เป็นอาหารที่สำคัญในการรับพลังงานในแต่ละวัน
มาก  
ผัก ผลไม้ ต้องรับประทานให้เพียงพอ และไม่หวานจัด และอาหารประเภทนี้จะมี วิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยที่ใช้บำรุงร่างกาย
น้อย 
เนื้อ นม ไข่ เลือกรับประทานแต่เนื้อแดง และปลา แต่ไม่ควรมากเกิน 150 กรัม 3 ครั้ง/สัปดาห์ และ ปลา 200 กรัม 2 ครั้ง/สัปดาห์
น้อยที่สุด   
ไขมัน ต้องรับประทานในปริมาณน้อยที่สุด เพราะไขมันมีแคลอรี่เป็น 2 เท่าของคาร์โบไฮเครต และโปรตีน
3. หลีกเลี่ยงน้ำตาล โดยเฉพาะขนมต่างๆ เพราะจะมีไขมัน และแคลอรี่ที่สูงมาก จึงควรทดแทนขนมต่างๆ ด้วยผลไม้สดที่ไม่หวานจัด และควรเก็บผลไม้ไว้ในที่ๆ มองเห็น และหยิบสะดวก
4. ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็นครั้งคราว พยายามชดเชยด้วยการออกกำลังกาย เพราะน้ำหนักที่มาเป็นครั้งคราว อาจก่อให้เกิดความเคยชินจนอาจมาตลอดเลยก็ได้ จึงควรพยายามชดเชยด้วยการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น
5. จำกัดการดื่มแอลกอฮอลล์ เพราะมีแคลอรี่สูงเกือบเท่าไขมันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเครื่องดื่มที่เหมาะกับการลดน้ำหนักก็คือ น้ำเปล่า นั้นเองค่ะ
6. หลีกเลี่ยงอาหารที่ทานแล้วหยุดยาก เช่น ขนมกรอบ ๆ ถั่ว เนยแข็ง เป็นต้น เพราะยิ่งทาน จะยิ่งหยุดไม่ได้
7. หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เสียดายอาหารที่เหลือ อย่างเช่น การซื้อเหมา โหล เพราะราคาประหยัดกว่า แต่คุณอาจต้องมาเสียดายกับอาหารส่วนที่เหลืออยู่ และอาจต้องรับประทานให้หมด ผลที่ตามมาก็คือ 'อ้วน' นั่นเอง
เพียงแค่การสร้างนิสัยการรับประทานง่าย ๆ เท่านี้ ภาวะที่ต้องทนทุกข์ทรมานทางใจ และทางกาย จากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นก็จะไม่มีอีกต่อไปค่ะ



ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามดารา

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

8 อาหารใจที่ลูกต้องการจากพ่อแม่ | PG&P

การเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสมมีส่วนอย่างมากในการทำให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งกายและใจ วิธีอบรมเลี้ยงดูเด็กเพื่อให้เติบโตอย่างมีสุขภาพจิตและบุคลิกภาพที่ดีนั้น เป็นงานที่ต้องลงทุนทั้งกำลังกาย กำลังใจ ซึ่งต้องใช้เวลาหล่อหลอมหลายปีตั้งแต่เกิดจนเป็นวัยรุ่น ถ้าทำไม่สม่ำเสมอ ขาดๆ เกินๆ จะทำให้เด็กเติบโตมามีข้อบกพร่องในบุคลิกภาพไปในรูปแบบต่างๆ ได้
พญ.ภัทรวรรณ ขันธ์แก้ว จิตแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า การเลี้ยงลูกเป็นงานที่ต้องลงทุนทั้งกำลังกายและกำลังใจเป็นระยะเวลายาวนานหลายปีตั้งแต่เกิดจนเป็นวัยรุ่น เป็นงานยากทุกยุคทุกสมัย ตามปัจจัยส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการและปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อพัฒนาการแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นความยากก็อยู่ในงานนั้น ความง่ายก็มี ความสุขจากการเห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยก็ทำให้พ่อแม่มีความสุขขึ้นมาก
“ไม่ว่ายุคนี้หรือยุคก่อนก็พบอุปสรรคในการเลี้ยงดูเหมือนกัน เพียงแต่มีปัจจัยแวดล้อมที่ควรระมัดระวังแตกต่างกัน สมัยก่อนการสื่อสารมีจำกัด วิทยุ ทีวี จดหมาย โทรศัพท์มีน้อยมาก ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารรวดเร็วมาก ทำให้บางสิ่งบางอย่างในชีวิตต้องรวดเร็วไปด้วย คิดเร็ว ทำเร็ว ตัดสินใจเร็ว เพราะฉะนั้นโอกาสผิดพลาดก็อาจมีสูงไปด้วย ส่วนด้านอาหารการกินก็แตกต่างกัน”
ทั้งนี้ พญ.ภัทรวรรณ ได้ให้ข้อแนะนำและหลักในการเลี้ยงลูกที่พ่อแม่ยุคใหม่จะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารใจที่ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการส่งเสริมให้เด็กมีสุขภาพจิตและบุคลิกภาพที่ดี โดยแม่จะต้องคำนึงถึงหลักการเลี้ยงลูกหลักๆ 8 ประการ ดังนี้
1.ความรักความอบอุ่นอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง คือ ความรักทำให้เด็กมีความรู้สึกที่ดีหลายด้าน เช่น รู้สึกตัวเองมีคุณค่า มีความมั่นใจในตัวเอง รักตอบคนอื่นเป็น มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส พ่อแม่ควรแสดงออกซึ่งความรักต่อเด็กด้วย การโอบกอด การลูบศีรษะบ้าง เพราะการไม่แสดงออกเลย บ่อยครั้งที่เด็กเข้าใจว่าพ่อแม่ไม่รัก พ่อแม่ห่างเหิน ไม่สนใจตนเอง ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกขาดแคลนทางจิตใจ สิ่งที่สำคัญอย่ารักและตามใจแบบไร้ขอบเขตจนกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ และเข้ากับคนอื่นได้ยาก
 2.ทำให้ครอบครัวมีความสงบสุข หมายถึง การสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้าน พ่อแม่ควรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ปรึกษาหารือกัน เพื่อให้เด็กรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยในชีวิต และไม่หวาดกลัว
3.เข้าใจธรรมชาติของเด็กแต่ละวัย เพื่อพ่อแม่จะได้ตอบสนองความต้องการได้เหมาะสม ทำให้เด็กมีความสุขที่ได้รับการตอบสนองและเข้าใจ เพราะเด็กแต่ละช่วงอายุมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง
4.พยายามเลี้ยงดูอบรมลูกด้วยตัวเองให้มากที่สุด เพราะทำให้เกิดความผูกพันซึ่งกันและกัน เกิดความใกล้ชิด อบอุ่น ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน
5.ควรช่วยให้เด็กมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น เด็กจะมีความมั่นใจในตนเองได้ ต้องอาศัยปัจจัยข้อนี้มาก เด็กจะรู้สึกว่าตัวเองดีได้ก็ต่อเมื่อพ่อแม่เห็นว่าเขาดีพอ และช่วยส่งเสริมให้เด็กพัฒนาความรู้สึกที่ดีต่อไปได้โดยยอมรับเด็กอย่างที่เด็กเป็น เวลาลูกทำดีควรให้คำชมเชยหรือชื่นชมในสิ่งที่เด็กทำ เขาจะได้มั่นใจว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และเมื่อเด็กทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ควรตำหนิรุนแรง ควรบอกว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร เพราะอะไร และที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร นอกจากนั้นแม่ควรพูดเพราะๆ และสุภาพกับเด็ก รวมทั้งให้ความไว้วางใจเด็กด้วย โดยเฉพาะเวลาให้เด็กทำอะไร ควรปล่อยให้เขาทำตามความสามารถของเขา อย่าไปแสดงความรู้สึกกังวลเกินไป หรือพูดจาคาดคั้นว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
6.ควรให้เด็กมีอิสระและตัดสินใจเองตามวัย พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกได้ทดลองทำอะไรด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดประสบการณ์ และได้ฝึกการแก้ปัญหาเพื่อเกิดการเรียนรู้ โดยมีพ่อแม่คอยให้คำปรึกษาและดูอยู่ห่างๆ
7.ส่งเสริมให้เด็กเห็นความสำคัญของตนเองไม่น้อยกว่าผู้อื่น เพื่อให้เด็กได้เห็นคุณค่าและมองว่าตัวเองก็มีความสำคัญ โดยแม่จะต้องหมั่นชื่นชมลูกตามความเหมาะสม เช่น สอบได้ที่ 1 ควรชื่นชมลูก และมีรางวัล หรือ ลูกเก็บกระเป๋าเงินของเพื่อนแล้วนำไปให้คุณครู แม่ควรชื่นชมว่าลูกเป็นคนดี มีน้ำใจและทำสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจและเห็นความสำคัญของตัวเอง
8.ส่งเสริมให้เด็กคิดแบบมีหลักการและเหตุผล เวลาให้เด็กทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ควรบอกเหตุผลให้เข้าใจง่ายๆ และสั้นๆ เช่น เล่นของมีคม ควรบอกว่าอย่าเล่นของมีคม เพราะอันตรายพลาดโดนมือแล้วเจ็บมาก สอนให้รู้ว่าเรื่องไหนควรจะอาย เรื่องไหนไม่ควรจะอาย ไม่ใช่เป็นคนขี้อายโดยไร้เหตุผล เช่น ควรละอายเมื่อทำสิ่งที่ผิด เช่น การลักขโมย แต่ไม่ใช่ว่าเกิดพลาดพลั้งหกล้มก็ต้องอายคนรอบข้าง เด็กควรเห็นว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุธรรมดา ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
อ่านแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับอาหารใจกันนะคะ



ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ASTV

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

โรคอ้วน มัน...เป็นภัย.???? | PG&P

สถานการณ์โรคอ้วนของไทยเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันมีความเสี่ยง ทั้งการบริโภคอาหารเกินความจำเป็น มีพฤติกรรมกินหวานเพิ่มขึ้น นำมาสู่สาเหตุการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน ไขมัน และความดันเลือดสูง ซึ่งในอนาคตอีก 10-20 ปี รัฐบาลต้องจ่ายค่ารักษาอาการแทรกซ้อนจาก "โรคกินเกิน" เป็นเงินมหาศาล องค์การอนามัยโลกระบุว่า ปัญหาสุขภาพที่เลวร้ายซึ่งเกิดจากพฤติกรรม 3 อันดับแรก คือ 1.พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศนำไปสู่การ ติดเชื้อเอชไอวี 2.การสูบบุหรี่ที่นำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ และ 3.โรคอ้วนที่นำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ

มัน...เป็นภัย.????

สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถิติสถานะสุขภาพคนไทย จากการสำรวจ The Nation Household Education Surveys Program (NHES) ครั้งที่ 3 ปี 2546-2547 เปรียบเทียบกับการสำรวจ NHES ครั้งที่ 4 ปี 2551-2552 พบภาวะไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดสูง มีอัตราความชุกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15.5 เป็น 19.4

ในขณะที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผลการสำรวจล่าสุดพบคนไทยมีปัญหาภาวะโภชนาการเกิน และกลายเป็นโรคอ้วนเพิ่มสูงมากที่สุดในรอบ 10 ปี โดยเด็กแรกเกิดไปจนถึงอายุ 12 ปี มีความอ้วนพุ่งสูงถึงร้อยละ 40 รองลงมาคือช่วงอายุ 40-50 ปี อ้วนเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2 เท่า และช่วงอายุ 20-29 ปี มีความอ้วนอยู่ที่ร้อยละ 21.7

และที่น่าตกใจคือ ข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า เด็กไทยที่อ้วนกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเจาะเลือดหาไขมันในร่างกายแล้ว พบว่าร้อยละ 70 มีปัญหาไขมันสูงเกินมาตรฐาน

ผลสำรวจสุขภาพล่าสุด มีคนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไปเป็นโรคอ้วน ติดอันดับ 5 ของเอเชียแปซิฟิก โดยมีคนอ้วนมากถึง 17 ล้านคนทั่วประเทศ และยังมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 ล้านคนต่อปี ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมากกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท

ไขมัน เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะร่างกายใช้เป็นแหล่งพลังงาน โดยไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี่ ไขมันยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของผนังเซลล์ ฮอร์โมนเพศ และเป็นตัวพาวิตามินที่ละลายในไขมันเข้าสู่ร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ไขมันมีประโยชน์หากกินในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย แต่หากกินไขมันเกินความต้องการ ส่วนเกินนี้ร่างกายเก็บสะสมในรูปเซลล์ไขมัน แทรกอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ใต้ชั้นผิวหนัง แต่หากสะสมในช่องท้องมากขึ้นๆ จะกลายเป็นคนอ้วนลงพุง

ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยแรกๆ และสำคัญ ที่นำไปสู่โรคไต โรคหัวใจ ไขมันจึงนับเป็นภัยเงียบที่ซ่อนตัวในร่างกายของเรา เพราะการมีไขมันสะสมในร่างกายมาก ไม่ได้ทำให้ร่างกายรู้สึกเจ็บปวด หรือเจ็บป่วย

บางคนมารู้อีกทีด้วยอาการปางตายหรือสายเสียแล้ว เช่น "เจ็บหน้าอก ปวดน่องเวลาเดินมากๆ อัมพาตไม่รู้สึกตัว หย่อนสมรรถภาพ ยกเว้นในคนที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงมากๆ อาจจะพบตุ่ม หรือแผ่นเนื้อเยื่อไขมันลักษณะสีเหลือง บนผิวหนัง (เช่น บริเวณหนังตา คอ หลัง สะโพก) เรียกว่า Xanthoma ถ้าพบบริเวณเส้นเอ็น (เช่น เอ็นร้อยหวาย เอ็นบริเวณหลังมือ) ก็อาจทำให้เส้นเอ็นมีลักษณะหนาตัว บางรายอาจจะพบวงแหวนสีขาวๆ ตรงบริเวณขอบกระจกตาดำ (แบบที่พบในผู้สูงอายุ เรียกว่า Arcus senilis)

การหมั่นตรวจเช็กสุขภาพ ด้วยการตรวจเลือด เฝ้าระวังทุกปี หรือทุก 6 เดือน จะพบภาวะการเปลี่ยนแปลงไขมันสูงในเลือดได้ และจะช่วยให้เราใส่ใจเรื่องการกินอาหารที่มีไขมันน้อย ซึ่งจะช่วยลดไขมันหรือป้องกันไม่ให้ไขมันในเลือดสูง

อย่างไรก็ตาม บางภาวะ โดยเฉพาะในผู้สูงวัย หรือคนอ้วน มีแนวโน้มไขมันในเส้นเลือดสูงขึ้นเรื่อยๆ บางรายอาจต้องกินยาลดไขมัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด ที่มีไขมันไปเกาะหลอดเลือด จะทำให้หลอดเลือดหนาตัวแข็งขึ้น หลอดเลือดเล็กลง สิ่งที่จะตามมา จะทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง และหรือถ้าเกิดที่หลอดเลือดหัวใจทำให้หัวใจขาดเลือด

ถ้าเกิดที่หลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต สมองเสื่อม

ถ้าเกิดที่หลอดเลือดไปเลี้ยงขา ทำให้เดินแล้วปวดน่อง เป็นตะคริว ปลายเท้าเย็น เป็นแผลเรื้อรัง หรือปวดขา หรือปลายเท้า

ถ้าเกิดที่หลอดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศ ในผู้ชาย จะทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือภาวะองคชาตไม่แข็งตัว

นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มีภาวะไตกลี เซอไรด์ในเลือดสูง (เกิน 100 มิลลิกรัม ต่อเลือด 100 ซีซี) จะมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ทำให้เกิดเบาหวานได้

ภาวะไขมันในเลือดสูง พบบ่อยได้ทั้งชายและหญิง พบมากในคนที่มีประวัติพันธุกรรม คนอ้วน หรือคนที่ชอบกินอาหารที่มีไขมันสูง ขาดการออกกำลังกาย หรืออาจมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ ดังนั้น เพื่อหลีกเลียงจากภัยเงียบที่แฝงเร้นในร่างกายของเรา จึงต้องหมั่นดูแลร่างกายด้วยการใช้หลัก 3 อ. ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ

อาหาร กินผักผลไม้ให้มากๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วต่างๆ หลีกเลี่ยงผลไม้รสหวานจัด

กินอาหารเนื้อสัตว์ใหญ่ (วัว หมู) ให้น้อยลง หันมากินโปรตีนจากปลา ไก่ ถั่วเหลือง เต้าหู้

หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันชนิดอิ่มตัวสูง เช่น ครีม ไอศกรีม ขนมที่ทำจากแป้งกรอบ หมูสามชั้น ขาหมู ไส้กรอก กะทิ เนยเหลว ถ้านิยมดื่มนม ควรดื่มนมพร่องมันเนย หลีกเลี่ยงกินเครื่องในสัตว์ สมองสัตว์ ไข่แดง

หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาล และของหวานออกกำลังกาย เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ครั้งละ 30-45 นาที หรือวันเว้นวัน ถ้าอ้วนให้ลด น้ำหนัก งดบุหรี่ งดเหล้า

อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่หงุดหงิด ไม่เครียด

ยังไม่สายเกินไป หากวันนี้คุณจะเริ่มต้น ใส่ใจ ตรวจวัดไขมันในเลือดของตัวเอง เพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรค

และใครที่กำลังมีแผนการจะลดน้ำหนักเพื่อลดความเสี่ยง แต่ยังหาแรงจูงใจไม่ได้ ผู้เขียนก็มีโครงการที่อยากแนะนำกับการ "ลดอ้วนสร้างบุญ" ของกระทรวงสาธารณสุข โดยดำเนินการในช่วงเข้าพรรษา และมีเป้าหมายว่า จะลดน้ำหนักรวมกันทั้งประเทศให้ได้ในพรรษานี้จำนวน "หมื่นตัน" ท่านใดสนใจต้องการทำบุญด้วยการสลัดและบริจาคไขมัน ก็ลองถามรายละเอียดที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

ส่วนผู้เขียนตอนนี้ขออนุญาตไปปั่นจักรยานสลัดไขมันก่อนครับ









ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน โดย นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร  อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks