น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

ความรู้เกี่ยวกับน้ำตาลในผัก

วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555


ความจริงที่ว่าผักดีต่อสุขภาพ คุณวิเศษของผักมีมากมาย แต่สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องควบคุมน้ำตาลเป็นพิเศษ อาจไม่เหมาะกับผักบางชนิด ข้อมูลดีๆ ในการเลือกกินผักเพื่อสุขภาพโดยไม่ต้องสงสัย หรือกังวล สำหรับคนเป็นเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องควบคุมน้ำตาลเป็นพิเศษ ไว้หลีกเลี่ยงผักบางชนิดได้ทัน
ผักที่มีน้ำตาล 3-5 เปอร์เซ็นต์
มะเขือ น้ำเต้า ใบตังโอ๋ ผักกาดขาว ผักกระเฉด แตงกวา บวบ ผักโขม ผักบุ้ง หน่อไม้ หัวผักกาดขาว ฟักเขียว ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ยอดฟักทอง เห็ดบัว แตงร้าน ผักตำลึง ผักกาดขาวปลี ขึ้นฉ่าย มะระ ถั่วงอก ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า กุยช่าย สายบัว ชะอม ดอกหอม กะหล่ำปลี
ผักที่มีน้ำตาล 5-10 เปอร์เซ็นต์
ฝักถั่วลันเตา ใบชะพลู ต้นหอม ดอกกะหล่ำ ถั่วแขก ผักโขม หอมใหญ่ ใบทองหลาง ดอกโสน ถั่วพู มะรุม ดอกแค ขิง หน่อไม้ ข้าวโพดอ่อน หัวปลี กระเจี๊ยบ มะละกอดิบ ใบกระถิน ยอดและฝักอ่อนกระถิน
ผักที่มีน้ำตาล 15-20 เปอร์เซ็นต์
ดอกขี้เหล็ก เมล็ดถั่วลันเตา ใบมะขามอ่อน ใบย่านาง ผักหวาน ลูกเนียง มันฝรั่ง
ผักที่มีน้ำตาล 20-30 เปอร์เซ็นต์
กระจับ กลอย เผือก มันเทศ ใบขี้เหล็ก แห้วจีน 
อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว ก็ขอฟันธงกันชัดๆ เลยค่ะว่า ผักในกลุ่มที่มีน้ำตาล 20-30 เปอร์เซ็นต์ ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคเบาหวาน ลองเช็คดูว่าควรลดผักอะไรที่เป็นของชอบบ้าง


ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ขนตาปลอม ภัยร้ายที่ควรระวัง!

ปัจจุบัน การติดขนตาปลอมเพื่อช่วยเสริมเสน่ห์ใบหน้า หรือเสริมให้ตาโตหวานคมแบบตุ๊กตา ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งกลุ่มเด็กวัยรุ่น และกลุ่มคนทำงาน แต่รู้หรือไม่ว่าขนตาปลอมอาจนำภัยร้ายมาสู่ดวงตาของคุณได้
ความสำคัญของขนตาธรรมชาติ (Eyelashes)
ขนตาตามธรรมชาติของคนเรามีความสำคัญมากต่อดวงตา เพราะขนตามีหน้าที่ปกป้องดวงตาจากอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับดวงตา เช่น ป้องกันฝุ่นผง ฝุ่นละออง และเหงื่อไม่ให้ไหลเข้าสู่ดวงตา โดยธรรมชาติขนตาของคนเราจะมีขนตาบนมากกว่าขนตาล่าง โดยขนตาบนมีประมาณ 120 เส้น และขนตาล่างมีประมาณ 80 เส้น โดยที่โคนขนตาแต่ละเส้นจะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อช่วยผลิตไขมันและน้ำไป หล่อเลี้ยงในดวงตา เพื่อเคลือบกระจกตาให้ชุ่มชื้น ทำให้ดวงตาไม่แห้ง
ภัยร้ายจากขนตาปลอม
การนำสิ่งแปลกปลอมวัสดุต่างๆ มาติดที่ขนตานับว่าเสี่ยงอันตรายต่อนัยน์ตา เป็นตัวทำลายดวงตาทางอ้อม เนื่องจากอาจทำให้เกิดสิ่งสกปรกมาสะสมบริเวณหนังตา และหากเก็บรักษาขนตาปลอมไม่ถูกวิธี ไม่สะอาด เมื่อนำมาติดที่ขอบตาซึ่งติดกับขนตาจึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ดวงตา อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ระคายเคือง อักเสบ มีโอกาสเสี่ยงถึงขั้นตาบอดได้
ขณะที่ดึงขนตาปลอมออกจะมีกาวเหนียวๆ ที่ใช้ติดขนตาปลอมอาจจะทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย และยิ่งทำบ่อยครั้งก็จะสร้างความกระทบกระเทือนต่อขนตาจริง เป็นเหตุให้ขนตาหลุดร่วง หรือเปราะบาง หักง่าย และไม่แข็งแรง ส่งผลให้การงอกของขนตาผิดเพี้ยนไปจากตำแหน่งเดิมบริเวณเปลือกตา อาการขนตาคุดหรือขนตางอกผิดทิศทาง
เปลือกตาเป็นผิวที่บอบบางมาก การใช้กาวซึ่งเป็นสารเคมีติดถึงตำแหน่งโคนขนตาบ่อยๆ นอกจากจะทำให้ขนตาจริงเปราะบาง หัก หลุดร่วงได้ง่ายแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอาการแสบตา ตาอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เกิดตุ่มพุพอง หรือเป็นหนอง การอักเสบนี้อาจถึงขั้นทำให้ต่อมรากขนตาฝ่อ ส่งผลให้ขนตาหยุดการงอกใหม่ได้
*ข้อควรระวัง* สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ขนตาปลอมนั้น ควรใช้อย่างระมัดระวัง ดังนี้
- การเลือกซื้อขนตาปลอมและกาวติดขนตาปลอม ควรเลือกซื้อที่ได้มาตรฐาน ฉลากต้องระบุชัดเจนว่าสามารถใช้กับดวงตาได้ (การใช้กาวอื่นอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้) ก่อนใส่ต้องล้างมือให้สะอาด
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ขนตาปลอมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ควรมีระยะเวลาหยุดพักบ้าง
- ไม่ใช้มือขยี้ตาในขณะที่มีขนตาปลอมติดอยู่
- ไม่ควรใช้ขนตาปลอมร่วมกับคนอื่น
- ทำความสะอาดอุปกรณ์สำหรับติดขนตาปลอมให้สะอาดเสมอทั้งก่อนและหลังใช้งาน
- สำหรับผู้ที่ติดขนตาปลอมถาวร ควรรักษาความสะอาดโดยใช้สำลีชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดเบาๆ
- เมื่อสังเกตเห็นว่า เกิดผื่นแดง อักเสบ บวม หรือมีตุ่มหนองใสๆ บริเวณรอบดวงตา ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจเนื่องมาจากการแพ้ขนตาปลอมที่คุณใช้งาน
* การถอดหรือดึงขนตาปลอมออก อาจจะมีขนตาจริงหลุดติดมาอย่าพึ่งตกใจ เพราะขนตาสามารถงอกใหม่ได้ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยถนอมขนตาให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ได้แก่ อาหารที่มีกรดโฟลิค ซึ่งพบมากในตับ ผักใบเขียว ยีสต์ ที่มีในขนมปังและนมเปรี้ยว ธาตุสังกะสีที่มีในหอยนางรม อาหารทะเล และไข่ เป็นต้น
- สำหรับกลุ่มคนไข้ที่ทำเลสิค (Lasik) หากต้องการติดขนตาปลอม โดยปกติสามารถติดได้หลังจากทำเลสิค (Lasik) ไปแล้วหนึ่งเดือนขึ้นไป แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อดวงตาของท่าน ควรสอบถามจากจักษุแพทย์ที่ดูแลโดยตรงอีกครั้ง

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ไข้คอตีบระบาดหนักอีสาน

ไข้คอตีบระบาดหนักอีสาน

กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (Public Health Emergency) ด้านการอุบัติหมู่ของโรคไข้คอตีบในพื้นที่ภาคอีสาน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยได้แจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์ไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทุกแห่ง ก่อนจะออกคำสั่งเป็นทางการอีกครั้ง
สำหรับสถานการณ์การระบาดล่าสุด มีความรุนแรงใน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.เลย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่มีการรายงานตัวเลขอย่างเป็นทางการ โดย คร.คาดการณ์เส้นทางการระบาดของโรคมาจากชายแดนไทย-ลาว บริเวณ จ.เลย
นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภายในให้เฝ้าระวัง และกำหนดมาตรการค้นหาผู้ที่เป็นพาหะของโรค อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าสถานการณ์ไม่รุนแรงและการระบาดสูงสุดได้สิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยลดลงเรื่อยๆ
“เราประกาศให้หน่วยงานภายในเตรียม พร้อม แต่สถานการณ์ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นต้องประกาศให้ประชาชนทั่วไปรับทราบ โดยพบผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย ซึ่งเป็นสถิติสะสมจากช่วงระบาดใหญ่” นพ.ภาสกร กล่าว
นพ.ภาสกร ย้ำว่า สถานการณ์ของโรคไม่รุนแรง ไม่ได้ระบาดใหญ่ ประชาชนสามารถไปงานเทศกาล งานบุญ หรืองานที่มีการรวมกลุ่มกันได้ตามปกติ
สำหรับโรคคอตีบ พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์ พบ.วว.รังสีรักษาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์ อธิบายว่า เป็นโรคที่เกิดจากทางเดินหายใจติดเชื้อแบคทีเรีย พบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย มักจะเกิดกับเด็กเล็ก ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน
ผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อคือ ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ (ทั้งเด็กและผู้ใหญ่) รวมทั้งผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแออัด ขาดสุขอนามัย และในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ
เชื้อจะอาศัยอยู่ในโพรงจมูก โพรงหลังจมูก ลำคอ แต่อาจจะพบได้ในผิวหนัง นอกจากนี้เชื้อมีโอกาสจะอยู่ในดินและแหล่งน้ำธรรมชาติได้ โดยโรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายและระบาดได้รวดเร็ว จากผู้ที่คลุกคลีกับผู้ป่วย การสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย ละอองหายใจ การไอจาม
เมื่อได้รับเชื้อ เชื้อจะค่อยๆ สร้างสารพิษ ซึ่งเป็นโปรตีนมีพิษต่อร่างกายชนิดหนึ่ง เรียกว่า Diphtheria Toxin สารพิษนี้จะก่อให้เกิดการอักเสบของเยื่อเมือกในทางเดินหายใจ เกิดการตายของเซลล์เยื่อเมือกในทางเดินหายใจของเซลล์เม็ดเลือดขาวและของเม็ด เลือดแดง รวมทั้ง|การตายสะสมของตัวแบคทีเรียเอง ก่อให้เกิดเป็นแผ่นเยื่อหนาปกคลุมทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจึงมีอาการหายใจไม่ออก คล้ายมีอะไรบีบรัดในทางเดินหายใจ
อาการพบคือ มีไข้แต่ไม่เกิน 39 องศาเซลเซียส รู้สึกหนาวสั่น อ่อนเพลีย เจ็บคอมาก หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ จากนั้นเสียงจะแหบลงเรื่อยๆ น้ำมูกอาจมีเลือดปน และอาจมีแผลทางผิวหนัง การรักษาจะให้ยาต้านสารพิษ ยาปฏิชีวนะ และการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ยังมีการรักษาประคับประคองตามอาการ


ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks