น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์

วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

คงไม่มีผู้หญิงคนไหนปรารถนาที่จะ มีตีนกาอยู่บนใบหน้าเป็นแน่ แต่เพราะตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เรื่องของริ้วรอยเป็นเรื่องที่ห้ามกัน ไม่ได้!! อยากให้ริ้วรอยลดเลือนลงไป แถมมีกระดูกที่แข็งแรง และมีพลังมากกว่านี้บ้างมั้ยล่ะ ลองเติมสุดยอดอาหารเหล่านี้ลงในเมนูของคุณดูสิ... สดใสดูอ่อนกว่าวัย Stay looking young เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เพียงอย่างน้อย 1 อย่าง เป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้เส้นผมดำขลับ เงางาม ผิวพรรณผุดผ่องและดวงตาเป็นประกาย

29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์

1. บลูเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่า แอนโทไซยานิน (anthocyanin) สารเม็ดสีในบลูเบอร์รี่ ช่วยในการมองเห็น ขอแนะนำให้คุณลอง ปั่นบลูเบอร์รี่รวมกับนมหรือโยเกิร์ตดู

2. พริกหยวก : ทั้งพริกแดง พริกเขียว และพริกเหลืองต่างมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย น้ำฉ่ำๆ จากพริกหยวกยังจะช่วยให้สุขภาพเล็บแข็งแรง ลองนำพริกไปทำซัลซ่า โดยผสมเข้ากับมะเขือเทศ กระเทียม พริกแดง แตงกว่า น้ำมันมะกอก และน้ำมะนาวดูสิ นอกจากจะได้ประโยชน์มหาศาลจากเหล่าสุดยอดอาหารแล้ว ยังได้อร่อยกับเมนูเด็ดจากฝีมือของคุณเองอีก

3. กะหล่ำปลี : เห็นเขียวๆ ม่วงๆ อย่างนี้รู้มั้ยว่ากะหล่ำปลีนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ, ซีและเบตาแคโรทีนที่จะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ เพียงหั่นกะหล่ำปลีบางๆ แล้วนำลงไปผัดกับขิงและกระเทียม เพียงเท่านี้ก็ได้อาหารมื้อค่ำสำหรับตัวคุณเองแล้ว

4. วอลนัท : ทองแดงในวอลนัทช่วยคงสภาพสีผมของคุณไม่ให้เปลี่ยนสีก่อนวัยอันควร ลองโรยวอล นัทลงบนสลัดหรือโยเกิร์ตก็ไม่เลวนะ

5. แอปริคอท : สารเบตาแคโรทีนในแอปริคอทช่วยชะลอการ เสื่อมถอยของเลนส์ตา ช่วยในการมองเห็นได้ดี ใส่แอปริคอทลงไปในสตูว์ไก่ ผสมกับขิงและอบเชยให้ได้กลิ่นอายแบบโมร็อคโค

6. อะโวคาโด : การรับประทานอะโวคาโดช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน และปกป้องผิวจากอันตรายที่เกิดจากแสงแดด เนื่องจากอะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอี บดอะโวคาโดโรยหน้าโอ๊ตเค้กเป็นของทานเล่นดูก็ได้

7. สตรอเบอร์รี่ : วิตามินซีและสารบางอย่างในสตรอเบอร์ รี่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผนังเส้นเลือด ผลไม้สีแดงสดทรงเสน่ห์แบบนี้ เพียงแช่เย็นไว้จิ้มกินกับเกลือตอนนั่งดูทีวีก็เพลินดีไม่น้อย

8. เต้าหู้ : หยุดยั้งผิวที่ซีดและแห้งโดยการรับประทาน อาหารอย่างเต้าหู้ เพราะในเต้าหู้มีสารที่จะช่วยคืนสภาพผิวและป้องกันรอยเหี่ยวย่น ลองผัดรวมกับผักกรอบๆ หรือทำเป็นต้มจืดเอาไว้ทานเป็นมื้อเย็นนอกจากจะช่วยคืนสภาพผิวแล้ว ยังช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

9. ข้าวโอ๊ต : เต็มไปด้วยเส้นใยที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลดอาการตึงเครียด จึงทำให้รอยเหี่ยวย่นน้อยลง เพียงโรยข้าวโอ๊ตลงบนมูสลี่ หรือนมอุ่นๆ ใส่น้ำตาลลงไปเล็กน้อยแค่นี้ก็ทานได้แล้ว กระชุ่มกระชวยเหมือนแรกสาว Stay feeling young

10. กระเทียม : สมุนไพรกลิ่นแรงอย่างกระเทียมมีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย ล้างพิษ และป้องกันไวรัส จากโรคภัยไข้เจ็บ ตั้งแต่ไข้หวัดไปจนถึงมะเร็ง อาหารไทยส่วนใหญ่มีกระเทียมเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว

11. แครนเบอร์รี่ : ผลไม้มหัศจรรย์ช่วยต้านการติดเชื้อ ในระบบทางเดินปัสสาวะ จากงานวิจัยล่าสุดพบว่ายังช่วยป้องกันโรคเหงือก และแผลในช่องท้องได้ชะงัดอีกด้วย อาจจะทำเป็นแยมไว้รับประทานกับขนมปังหรือทำเป็นซอสแครนเบอร์รี่ไว้ทาไก่หรือ เนื้อย่างก็มีประโยชน์ไม่แพ้กัน

12. ลินสีด : ช่วยลดอาการเจ็บตามข้อต่อ เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ร่างกายใช้ในการสร้างฮอร์โมนที่มีคุณสมบัติป้องกันอาการอักเสบ ลองเติมลงในน้ำปั่นหรือโรยหน้าสลัดดูก็ได้นะ

13. กีวี : วิตามินซีและสารอาหารบางอย่างในกีวีช่วยในการไหลเวียนของออกซิเจน ลดปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น โรคหืด หอบ หั่นกีวีเป็นลูกเต๋าเสียบไม้กับมะม่วงหรือกล้วย ทาด้วยน้ำผึ้ง แล้วนำไปย่าง อาจจะได้รสชาติแปลกใหม่ที่น่าลิ้มลอง

14. ลูกพลัม : อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยป้องกันการถูกทำลายของไขมันซึ่งเป็นส่วนประกอบ สำคัญในเซลล์สมอง นำลูกพลัมไปเคี่ยวกับน้ำส้ม และโรยลงไปบนมูสลี่ หรือจะกินเล่น เป็นขนมขบเคี้ยวก็ไม่มีใครว่า

15. กล้วย : เป็นแหล่งรวมของโพแทสเซียม นอกจากกล้วยจะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารแล้วยังช่วยลดอาการท้องผูก แค่ผสมเข้ากับนม น้ำผึ้ง และอัลมอนด์ ก็จะได้อาหารเช้าที่แสนอร่อย

16. ส้ม : การรับประทานส้มทั้งผลแทนการดื่มน้ำส้มจะช่วยให้ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำ วิตามินซีในส้มยังช่วยป้องกันและเยียวยาโรคหวัด นอกจากนี้กากของส้มยังช่วยในเรื่องของการขับถ่ายด้วย

17. ข้าวกล้อง : ฮอตฮิต อินเทรนด์กันอยู่พักใหญ่ เพราะอุดมไปด้วยแร่แมงกานีสที่จะช่วยให้พลังงานกับร่างกายโดยการให้โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต และยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบสีจัดจ้านของข้าวกล้องก็สามารถหุงข้าวกล้องรวมกับข้าวสวยได้

18. มะเขือม่วง : เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยนาซูนิน (nasunin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องสมองของคุณจากการถูกทำลาย เพื่อคงความฉลาดหลักแหลมของคุณไว้ ลองนำมะเขือม่วงไปทำแกง หรือรับประทานกับข้าวกล้องก็อร่อยไม่เบา แข็งแรงได้ใจ Stay healthy! จากการศึกษาพบว่า อะไรก็ตามที่คุณรับประทานเข้าไป มีโอกาสที่จะทำให้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ดีขึ้นได้ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคหัวใจ เพื่อให้อัตราการเสี่ยงของคุณลดน้อยลง ลองอาหารพวกนี้ดูสิ

19. ลูกพรุน : โพแทสเซียมในลูกพรุนช่วยลดคอเรสเตอรอลใน เลือดและลดระดับความดันเลือด ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหัวใจ เสิร์ฟคู่กับโยเกิร์ตหรือกินเล่นเป็นของว่างก็ดี

20. คะน้า : ช่วยให้ตับของคุณผลิตเอ็นไซม์ในการต่อต้านมะเร็ง เมื่อคุณเคี้ยวคะน้า จากการวิจัยพบว่า สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ ฮืม...ม เลือกผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูมื้อกลางวันดีกว่า (อ้อ อย่าลืมทุบกระเทียมลงไปด้วยนะ)

21. ผักโขม : คุณจะได้รับแคลเซียมจากผักโขม ในขณะเดียวกันก็มีแมกนีเซียมที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดี การรับประทานใบอ่อนของผักโขมในสลัด จะช่วยให้ป้องกันโรคกระดูกเปราะและหักง่ายเนื่องจากขาดแคลเซียม

22. ราสเบอร์รี่ : จากผลการวิจัยพบว่าสารแอนตี้ออกซิ เดนท์ในราสเบอร์รี่สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายได้ ลองนำราสเบอร์รี่ไปราดด้วยช็อกโกแลตเหลวแล้วไปแช่เย็นดูสิ

23. ถั่วงอก : สารประกอบ ที่พบในถั่วงอก สามารถช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้ถั่วงอกยังประกอบด้วยสารอาหารในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยเรื่องโรคเล็กๆ น้อยๆ ของสตรีในวัยหมดประจำเดือน ถั่วงอกผัดกับเต้าหู้ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยไม่เบา

24. บล็อคโคลี่ : การรับประทานบล็อคโคลี่เป็นประจำ จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 20% และยังมีวิตามินซีที่ช่วยป้องกันการปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ และโรคไขข้ออักเสบได้ด้วย ลวกใส่ในสลัด หรือผัดกับกุ้งสดก็ไม่เลว

25. บีทรูท : เนื้อของบีทรูทอุดมไปด้วยเบต้าไซยานิน ซึ่งเป็นสารต่อต้านมะเร็ง รับประทานโดยการนำไปตุ๋นหรือย่าง

26. องุ่นแดง : จะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเลือดจับตัวเป็นก้อน และดักจับไขมันในเลือดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นเลือดแดงของคุณ ใส่องุ่นแดงลงในสลัดหรือดื่มไวน์แดงสักแก้วระหว่างมื้อค่ำ

27. ปลาที่มีไขมัน : แซลมอน หรือเนื้อปลาชนิดอื่นๆ ที่มีไขมันปนอยู่บ้างนั้น สามารถช่วยปกป้องคุณจากโรคภัยไข้เจ็บมากมาย อีกทั้งโปรตีนในเนื้อปลายังช่วยในเรื่องของสมอง ว่ากันว่าให้เด็กๆ กินปลาแล้วจะฉลาด ปลานึ่ง ปลาย่างราดซอสอร่อยๆ ล้วนเป็นทางเลือกที่ดี

28. มะเขือเทศ : สารไลโคพีนี (lycopene) ในมะเขือเทศจะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่สำคัญช่วยให้ผิวสวยอย่าบอกใครเลยเชียวล่ะ เลือกเอาเลยว่าคุณอยากจะใส่มะเขือเทศลงในอาหารอะไรบ้าง

29. หัวหอม : หัวหอมที่มีกลิ่นไม่หอมเหมือนชื่อนี้จะ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน ซอยเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ใส่ในไข่เจียว หรือซอยใส่อาหารประเภทยำช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีทีเดียว





ที่มา : heyhaparty.blogspot.com

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทั่วกรุง

ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม.ระบุ สำนักอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จัดรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยง เพื่อความ ปลอดภัยของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร
พ.ญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า สำนักอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จัดรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสัตว์เลี้ยง ตามโครงการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดและโรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคสัตว์สู่คนที่ร้ายแรง คนหรือสัตว์ที่ติดโรคนี้จะเสียชีวิตทุกราย แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน กทม.จึงเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สัตว์เลี้ยงทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งประชาสัมพันธ์กระตุ้นเตือนให้ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้มากที่สุด
สำหรับสถิติในปี 2555 กทม.พบสัตว์มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จำนวน 52 ตัว ส่วนมากเป็นสุนัขที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า กทม.จึงรณรงค์อย่างเข้มงวดปีละ 2 ครั้ง ในเดือน มี.ค. และ ก.ย. ตั้งแต่ปี 53 ซึ่งพบว่าสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในเขตกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มดีขึ้น จึงได้ดำเนินการรณรงค์ให้วัคซีนป้องกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับครั้งนี้จะให้บริการแบบครอบคลุม โดยจัดหน่วยเคลื่อนที่วันละ 50 หน่วย ในทุกเขตทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละเขตจะหมุนเวียนสถานที่ตั้งหน่วยไปตามชุมชนต่างๆ โดยไม่คิดค่าบริการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 14 ก.ย.55 (เว้นวันเสาร์อาทิตย์) รวมแล้ว 500 หน่วย
ขอความร่วมมือประชาชนนำสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว อายุ 3 เดือนขึ้นไป ฉีดวัคซีนฯ ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนฯ เคลื่อนที่ใกล้บ้านท่าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามรายละเอียดจุดให้บริการในแต่ละวันได้ ที่สำนักงานเขตทุกเขต ศูนย์บริการสาธารณสุขทุกศูนย์ หรือสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข โทร.0-2248-7417 และ 0-2245-3311



ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

เตือนนักนิยมดื่มชา ทั้งชาเขียว-ชาเย็น สีสังเคราะห์-อ้วน

นักวิชาการ ม.มหิดล เตือน ดื่มชาเย็น ชาเขียว อันตราย เพราะสีเข้มจัด น่าจะใส่สีสังเคราะห์ผสมอาหาร ขณะที่วัยรุ่นไทยในปัจจุบันกินชากาแฟเย็นกันมากขึ้น บางคนดื่มถึงวันละ 3 แก้ว นอกจากทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายแล้ว ยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นด้วย แนะหลีกเลี่ยงอย่าดื่มทุกวัน โดยเฉพาะชาไข่มุกเด็กต่ำกว่า 4 ขวบ ไม่ควรดื่ม ไข่มุกอาจติดคอ สำลักหรือเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องรีบดูแล ส่วนนักโภชนาการ ห่วงไทยเผชิญกับวิกฤติอาหาร หลังจากเปิดเสรีอาเซียน เหตุคนสูงอายุมีมากขึ้น ทำให้กลุ่มคนวัยทำงานผลิตอาหารลดลง คนรุ่นใหม่ต้องแบกรับภาระมากขึ้น
ที่ไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 10 ก.ย. มีการประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติ ครั้งที่ 9 โดย ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และเลขาธิการสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณีองค์การด้านสุขภาพและนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโรงพยาบาลอาร์ คอน ประเทศเยอรมนี ได้ออกคำเตือนการบริโภคชาไข่มุกที่กำลังได้รับความนิยมในยุโรปรวมทั้ง เยอรมนีว่า นอกจากอาจทำให้เกิดการสำลักเม็ดไข่มุกแล้ว ยังตรวจพบการปนเปื้อนสารโพลีคลอริเนต ไบฟีนิล หรือ พีซีบี (PCBs) เป็นสารก่อมะเร็งเจือปน ว่า ในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ เมื่อมีข่าวนี้ออกมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงไปดำเนินการตรวจวิเคราะห์ ทั้งนี้คิดว่าการตรวจพบในเยอรมนีน่าจะเกิดจากการปนเปื้อน หรือเจือปน เพราะสารพีซีบีเป็นสารทำความเย็นและใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หากถูกปล่อยไปสู่สิ่งแวดล้อมจะอยู่ในพืชและไม่ย่อยสลาย เช่น อาจจะอยู่ในมันสำปะหลังที่นำมาผลิตแป้ง และน่าจะเป็นบางลอตเท่านั้น ไม่ควรตื่นตระหนก
"การป้องกัน คือ ดื่มให้น้อยลงหรือนาน ๆ ดื่มครั้ง เพราะชาไข่มุกหวานมาก ที่สำคัญในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ควรหลีกเลี่ยง เพราะไข่มุกทำจากแป้งมันสำปะหลังเหนียวมาก การดูดโดยใช้หลอดใหญ่ ๆ เด็กอายุ 4 ขวบ อาจสำลัก ติดคอ หรือ เข้าไปในระบบทางเดินหายใจ พ่อแม่ที่ซื้อให้ลูกดื่มต้องระวังโดยควรเฝ้าดูและให้เด็กนั่งอยู่กับที่ นอกจากนี้ในผู้สูงอายุก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันเพราะมีปัญหาเรื่องการกลืนและ อาจสำลักเช่นกัน" ผศ.ดร.เรวดี กล่าว
ผศ.ดร.เรวดี กล่าวต่อว่า ชาไข่มุกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกกาแฟเย็น ซึ่งกาแฟเย็น ชาเย็นกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะวัยรุ่นบริโภคเยอะมาก จากประสบการณ์ที่ไปทำเรื่องการลดน้ำหนักมาหลายแห่งพบว่า คนที่น้ำหนักมากดื่มกาแฟเย็นวันละ 3 แก้ว นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วก็ยังทำให้น้ำหนักขึ้น เคยแนะนำให้ดื่มเหลือเพียงวันละ 1 แก้ว ปรากฏว่าน้ำหนักลดลง 5 กก.ใน 1 เดือน ประหยัดวันละ 50 บาท นี่เพียงแก้วละ 25 บาท ไม่ใช่กาแฟดังราคาแพง ดังนั้นอยากให้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายและภาวะน้ำหนักเกินด้วย ด้วยเหตุนี้กำลังจะสำรวจการบริโภคกาแฟว่ามีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักเกิน ของคนไทยหรือไม่
เมื่อถามถึงสีของเครื่องดื่มประเภทชาเย็น ชาเขียว หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา กล่าวว่า เท่าที่ทราบชาจะผสมสมุนไพรที่เป็นสีจากธรรมชาติ แต่ถ้าสีเข้มมากอาจใช้สีผสมอาหาร ทั้งนี้ถ้าเป็นสีผสมอาหารดื่มมากก็ไม่ปลอดภัย เพราะเป็นสีสังเคราะห์ ใครที่รู้ตัวว่ากินวันละหลายแก้ว ควรหลีกเลี่ยง อยากให้รณรงค์ลดการดื่มลงเพราะทั้งหวานและมัน ควรจะหันมาดื่มน้ำเปล่าดีกว่า เนื่องจากบางคนดื่มแทนน้ำ ยิ่งในตอนนี้คนเป็นโรคเบาหวานกันมาก การดื่มตรงนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งก็ได้ โดยเฉพาะต่างจังหวัดขายถุงใหญ่มากบางคนดื่มเป็นกระติก คนขายขับเอากระติกมาส่งใน 1 วันดื่มมากกว่า 1 กระติก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนำภาพถ่ายชาเย็น และชาเขียวที่ขายอยู่ทั่วไปมาให้ ผศ.ดร.เรวดี ดู ได้รับคำตอบว่า ปกติสีจะไม่เข้มขนาดนี้ กรณีชาเขียวที่นำมาให้ดูสีเขียวผิดปกติ น่าจะใส่สี ส่วนชาเย็นก็เช่นกันปกติสีไม่ส้มสดขนาดนี้ ถ้าจับแล้วติดมือ โดนเสื้อผ้าแล้วซักไม่ออกน่าจะใส่สี สังเกตว่าเวลาไปกินอาหารญี่ปุ่นชาเขียวสีไม่ได้สดขนาดนี้ เป็นเขียวออกหม่น ๆ และสีส้มไม่น่าส้มสดขนาดนี้ ส่วนตัวคงไม่ดื่ม ดังนั้นกรณีนี้ควรระมัดระวัง เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง
ต่อข้อถามว่าถ้าตรวจแล้วสีเขียวหรือสีส้มเป็นสีผสมอาหารและใส่ในปริมาณ ที่กฎหมายกำหนดถือว่าปลอดภัยหรือไม่ ผศ.ดร.เรวดี กล่าวว่า คิดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมาดูเรื่องนี้เพราะประชาชนดื่มกันเยอะมาก แม้จะเป็นสีผสมอาหาร ถ้าดื่มทุกวัน คงไม่เหมาะสมเพราะการดื่มหรือกินอะไรถี่ ๆ ทุกวัน 5-6 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าเป็นผักผลไม้คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นอาหารไม่มีประโยชน์ 5-6 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่าเยอะ ดังนั้นถ้างดไม่ได้ก็ควรดื่มให้น้อยลง
ขณะที่ รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต ผอ. สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในการบรรยาย "บทบาทของไทยและประชาคมอาเซียนในการเชื่อมโยงอาหารสู่ความมั่นคงทาง โภชนาการ" ว่า การเปิดเสรีอาเซียนจำเป็นที่ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะความร่วมมือเพื่อรับมือต่อสถานการณ์ด้านอาหารจากความเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้น ทั้งในด้านประชากร จำนวนทรัพยากรอาหาร รวมไปถึงข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยในด้านประชากรพบว่าภาพรวมของอาเซียนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงของกลุ่ม ประชากรอย่างเห็นได้ชัด อัตราการเกิดลดลง เช่นเดียวกับอัตราการตาย เนื่องจากประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น โดยสิงคโปร์มีอัตราการเกิดต่ำสุด ส่วนของประเทศไทยขยับขึ้นมาอยู่ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ส่งผลให้สัดส่วนกลุ่มคนวัยทำงานลดลง ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี มีสัดส่วนประชากรมากขึ้น และแนวโน้มนี้จะมีต่อเนื่องไปในอนาคต ซึ่งหมายถึงผู้ที่ทำหน้าที่ผลิตอาหารมีจำนวนลดลง คนรุ่นใหม่ต้องแบกรับภาระมากขึ้น
ขณะนี้ประเทศไทยและสิงคโปร์เริ่มก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ประกอบกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรอาหารที่เริ่มหมดลง ส่งผลให้ไทยต้องประสบกับวิกฤติอาหารในอนาคต จึงต้องจัดทำแผนต่าง ๆ เพื่อรับมือ ทั้งการหาแรงงานทดแทนที่อาจนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือการเปลี่ยนการลงทุนโดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น นอกจากนี้ข้อจำกัดในเรื่องทรัพยากรทางอาหารถูกใช้ไปมากจนแทบไม่เหลือ ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ลาว กัมพูชา และพม่า ที่ยังคงมีอยู่จำนวนมาก ขณะที่ราคาอาหารและสินค้าแพงขึ้นทุกปี ดังนั้นจำเป็นที่ไทยต้องเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ไว้ ซึ่งในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มองว่าในด้านการลงทุนจำเป็นที่ต้องหารือร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่ เป็นการทำลายทรัพยากรด้านอาหาร เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยมาแล้ว รวมไปถึงผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ ที่เริ่มมีความรุนแรง และยาวนานมากขึ้น
รศ.ดร.วิสิฐ กล่าวว่า ในการเปิดเสรีอาเซียน เมื่อดูภาพรวมการส่งออกและนำเข้าสินค้า พบว่าในด้านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารยังมีความแตกต่างกัน จำเป็นที่ต้องจัดทำหลักเกณฑ์กลางที่เป็นของกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชากรในกลุ่มอาเซียนเอง แต่ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ที่เห็นได้ชัดเจนคือกรณีของน้ำดื่ม ตามเกณฑ์การวัดขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ประเทศสิงคโปร์สามารถเข้าถึงน้ำดื่มสะอาดตามมาตรฐานได้ 100% เช่นเดียวกับบรูไน ขณะที่ไทยอยู่ที่ 94% ส่วนกัมพูชาเข้าถึงเพียง 64% เท่านั้น


ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks