น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

"กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" เที่ยวสงกรานต์ปลอดโรค | PG&P THAI

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง ย้ำรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร และหลังใช้ส้วม โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุขอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนส่วนใหญ่ จะเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ รวมทั้งจับจ่ายใช้สอยสินค้า ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และอาหารปรุงสำเร็จเพื่อนำมาปรุงประกอบอาหารรับประทานภายในครอบครัว
เพื่อเป็นการป้องกันโรค กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขจึงเร่งพัฒนาตลาดสด ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหารให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการต้องมีความ ตระหนักด้านสุขลักษณะ ความสะอาด เช่น การใช้ที่คีบหยิบจับอาหารแทนมือ การแต่งกายต้องสะอาดโดยสวมหมวกคลุมผมและผ้ากันเปื้อน
สำหรับประชาชนก็ควรมีพฤติกรรมที่ถูกต้องและเหมาะสม เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่เสมอหรืออุ่นอาหารทุกครั้งก่อนนำมารับประทาน ใช้ช้อนกลางทุกครั้งเมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ก่อนและหลังรับประทานควรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่
โดยหากนำอาหารมาปรุงประกอบเองที่บ้าน ต้องล้างผักผลไม้ให้สะอาด ด้วยการใช้น้ำก๊อกไหลผ่านผักสดนานอย่างน้อย 2 นาทีร่วมด้วยการใช้สาร ละลายอื่นๆ เช่น เกลือละลายน้ำ น้ำส้มสายชู น้ำยาล้างผัก หลังจากนั้นจึงนำผักมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อลดสารเคมีติดค้าง ไม่ควรสูบบุหรี่หรือนำมือที่เปื้อนเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และเปลือกไข่ที่มีมูลสัตว์เปื้อนมาจับต้องจมูก ตา ปาก ควรแยกเขียง สำหรับหั่นอาหารสุก อาหารดิบ ผัก ผลไม้
"นอกจากนี้ ประชาชนควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอหรือเริ่มต้นใส่ใจสุขภาพของตนเอง ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการออกกำลังกาย ควรเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ลดปริมาณอาหาร  รสหวานจัด คือ บริโภคน้ำตาล ไม่เกิน 4 - 6 ช้อนชาต่อวัน ลดอาหารรสเค็มควรบริโภคเกลือน้อยกว่า 1 ช้อน ชาต่อวัน อาหารประเภททอดและอาหารที่มีไขมันสูง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่งานเลี้ยงสังสรรค์จะเต็มไปด้วยเมนูที่เป็น แป้ง น้ำตาล และไขมันมาก จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพิ่มเมนูผักและผลไม้รสไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง ชมพู่ นอกจากนี้ ควรงดน้ำหวาน น้ำอัดลม เปลี่ยนเป็นน้ำสมุนไพรที่หวานน้อย ซึ่งหากสามารถปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่องและเป็นประจำ จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังได้ รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละ 30 นาที จะช่วยให้ปอดและหัวใจแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง หัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และโรคอ้วน นอกจากนี้ ควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อร่างกายจะได้สดชื่นและมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น" อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด


ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด 



PG&P
น้ำมันรำข้าว  สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

แนะพกเบอร์ฉุกเฉิน-อุปกรณ์ปฐมพยาบาล รับมืออุบัติเหตุสงกรานต์ | PG&P THAI

สพฉ.ย้ำพกเบอร์ฉุกเฉิน-อุปกรณ์ปฐมพยาบาลติดรถ เตรียมพร้อมรับมืออุบัติเหตุสงกรานต์ แนะวิธีปฐมพยาบาลลดเจ็บป่วยฉุกเฉินเบื้องต้น สั่งทีมกู้ชีพเตรียมรับมือ 24 ชั่วโมง ตั้งเป้าช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินใน 8 นาที วอนพบเห็นรถพยาบาลโปรดให้ทาง
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินมากขึ้น 3-4 เท่า ซึ่งในปีที่ผ่านมาสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือระดับของความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุ เพราะมีสถิติผู้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สพฉ.ได้เตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยได้ประสานกับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 และมีการตรวจเช็กคู่สายกว่า 500 สายทั่วประเทศให้พร้อมใช้งาน และกระจายทีมกู้ชีพทั้งในส่วนภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครอบคลุมในทุกพื้นที่
นพ.อนุชา กล่าวอีกว่า ในส่วนของประชาชนต้องเตรียมพร้อมด้วยเช่นกันคือ หากเดินทางไกลจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างเดินทาง ขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง และหากต้องขับรถในระยะทางไกลเกินกว่า 200 กิโลเมตร ควรหยุดพักเป็นระยะ นอกจากนี้ ควรตรวจสภาพเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ ในรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วยเพื่อความปลอดภัย
“หากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินที่สำคัญจะต้องมีสติตลอดเวลา ต้องเตรียมพร้อมเรื่องการสื่อสาร การขอความช่วยเหลือ ซึ่งในรถแต่ละคันควรติดเบอร์โทรฉุกเฉินของหน่วยงานต่างๆ ไว้ เพราะบางช่วงเวลาหากตกใจเราอาจลืมการขอความช่วยเหลือได้ง่ายๆ นอกจากนี้ ควรมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลและยาที่จำเป็นไว้บ้าง อาทิ สำลี น้ำยาฆ่าเชื้อที่แผล ผ้าก๊อซปิดแผล ผ้าพันแผล พลาสเตอร์ปิดแผล ผ้ายืดพันแก้เคล็ดขัดยอก ถุงมือใช้แล้วทิ้ง ปากคีบหยิบสำลี กรรไกรตัด ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้เมารถ เป็นต้น รวมถึงเตรียมอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็น อาทิ ไฟฉาย ไฟฉุกเฉิน เชือก เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจกลายเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตคุณและคนที่คุณรักได้” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว
นพ.อนุชา กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่พบอุบัติเหตุหรือประสบเหตุเอง แต่ยังช่วยเหลือตนเองได้ ควรตั้งสติและประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของอุบัติเหตุ เช่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บกี่คน มีรถยนต์กี่คันที่ประสบเหตุ เกิดเหตุที่ใด และควรรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 โดยอย่าพยายามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่บาดเจ็บด้วยตนเอง เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุให้จอดรถในที่ปลอดภัย เปิดไฟฉุกเฉิน หากผู้ป่วยฉุกเฉินมีเลือดออกมากให้ปฐมพยาบาลห้ามเลือด โดยใช้ผ้าปิดปากแผลแล้วใช้ฝ่ามือกดให้แน่น 10-15 นาที จนเลือดหยุด สำหรับภาวะเลือดออกภายในต้องให้ผู้ป่วยพักในท่าที่สบายที่สุด ปลอบใจผู้ป่วยไม่ตื่นเต้นตกใจและสงบจะทำให้เลือดออกน้อยลง ห้ามให้อาหารและน้ำทางปาก จนกว่าแพทย์จะอนุญาต และหากไอเป็นเลือด ให้ผู้ป่วยพยายามไอเบาๆ จะทำให้เลือดออกน้อยลง หากกระดูกหักและจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายจริงๆ ให้ดามกระดูกก่อน โดยอาจใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว เช่น กระดาษแข็งหนาๆ หรือไม้นำมามัดดามไว้ด้วยเชือกหรือผ้าพันแผลบริเวณที่กระดูกหักเพื่อลดการขยับ
 “ช่วงเทศกาลสงกรานต์ทีมกู้ชีพเราพร้อมทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง โดยตั้งเป้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้ภายใน 8 นาที เพราะจะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอดและปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้น หากผู้ขับขี่พบเห็นรถพยาบาลโปรดหลีกทางให้ด้วย เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันกาล โดยอยากให้คิดเสมอว่าคนในรถฉุกเฉินอาจเป็นญาติหรือคนที่คุณรัก” เลขาธิการ สพฉ. กล่าว


ที่มา : เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์                     



PG&P
น้ำมันรำข้าว  สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

เตือนเมนู "หมูดิบ" ฉลองสงกรานต์ เสี่ยงหูดับ-หนวก | PG&P THAI

เตือนเหนือ-อีสานฉลองสงกรานต์ด้วยเมนู "ลาบหมูดิบ-แหนมหมูดิบ" เสี่ยงติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ทำให้หูดับ หูหนวกถาวร บางรายซวยถึงขั้นตาย แนะคนทำงานกับหมูควรสวมถุงมือ คนขายเนื้อหมูระวังอย่าให้มีแผล และคนกินต้องปรุงสุกเท่านั้น
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การเดินทางกลับภูมิลำเยาของประชาชนในช่วงสงกรานต์มักจะรับประทานอาหารประจำถิ่น อย่างภาคเหนือและภาคอีสานมักฉลองกันด้วย ลาบ หลู้ หมูดิบ คู่กับการดื่มเหล้า ซึ่งการรับประทานหมูดิบหรือสุกๆดิบๆ เป็นสาเหตุให้ป่วยเป็นโรคไข้หูดับและหูหนวกถาวร บางรายอาจถึงตาย ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้ป่วยโรคไข้หูดับสูง ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ นครพนม สกลนคร อุดรธานี และขอนแก่น จึงขอให้สงกรานต์นี้งดเมนูหมูสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะลาบหมูดิบ หลู้หมูดิบ และแหนมหมูดิบ เพื่อความปลอดภัยจากโรคไข้หูดับ
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า โรคไข้หูดับเป็นโรคติดต่อจากหมูสู่คน โดยหมูที่มีเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส ในระบบทางเดินหายใจ บางตัวอาจไม่แสดงอาการเจ็บป่วย ทั้งนี้ คนสามารถติดเชื้อจากหมูได้โดยการสัมผัสหมูที่มีเชื้อโรค โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยถลอก ซึ่งกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโรคทางผิวหนัง ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู คนชำแหละหมู ผู้ตรวจเนื้อหมู สัตวแพทย์ ผู้ขายเนื้อหมู ผู้ทำงานในโรงงานฆ่าหมู เป็นต้น ส่วนคนทั่วไปสามารถติดโรคได้จากการรับประทานหมู เช่น เลือดหมูดิบ กึ่งสุกกึ่งดิบ หรือเนื้อหมูที่คิดว่าสุกจากการบีบมะนาว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คน ส่วนระยะฝักตัวของโรคนี้สั้นมาก อยู่ที่ไม่กี่ชั่วโมง - 3 วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อและความแข็งแรงของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ร้อยละ 85 ผู้ป่วยจะมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบคือ มีไข้ คอแข็ง สับสน ปวดศีรษะ มักมีอาการปวดหัวนำมาใน 1-2 วันแรก ผู้ป่วยร้อยละ 54-80 จะสูญเสียการได้ยิน (หูหนวกถาวร) ในรายที่รุนแรง อาจมีการติดเชื้อในกระแสโลหิต อวัยวะภายในอักเสบ มีจ้ำเลือดทั่วตัว ช็อก โรคนี้มีอัตราตายสูงถึงร้อยละ 13
ด้าน นพ.พรเทพ ศิริวนาสังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า การป้องกันโรคไข้หูดับ สำหรับผู้ที่ใกล้ชิดหมู หรือทำงานเกี่ยวกับหมู ควรหลีกเสี่ยงการสัมผัสหมูหรือซากหมูด้วยมือเปล่า ควรสวมถุงมือ ใส่รองเท้าที่หุ้มเท้า ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และอาบน้ำ ชำระร่างกายทุกครั้งหลังสัมผัสหมู ส่วนผู้ค้าเนื้อหมู ต้องระวังอย่าให้มีบาดแผล หรือรอยถลอก บริเวณแขนและมือ ควรเลือกซื้อหมูจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐานมาขาย และเก็บเนื้อหมูไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส และที่สำคัญคือกลุ่มที่รับประทานหมู ควรเลือกซื้อหมูสด ไม่มีสีแดงคล้ำ หรือมีเลือดคลั่งมากๆ การปรุงควรนำเนื้อหมูมาปรุงสุกเท่านั้น ไม่ควรกินเนื้อหมู เลือด และอวัยวะภายในที่ดิบๆ หรือปรุงสุกๆดิบๆ และล้างมือด้วยสบู่ก่อนและหลังการสัมผัสเนื้อหรืออวัยวะของหมู โดยเฉพาะในบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล


ที่มา : เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์


PG&P
น้ำมันรำข้าว  สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks