น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

อันตราย! สินค้าหลอกลวงเกลื่อนเมืองสื่อดาวเทียมตัวแพร่ระบาด

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หลายคนคงเคยผ่านตากับโฆษณาฮาร์ด เซลส์ประเภทลงท้ายด้วย "8,000 เราไม่ขาย! 7,000 ไม่หรอก! เราเสนอให้คุณเพียง 4,990 บาทเท่านั้น! แต่ช้าก่อน! หากคุณโทร.เข้ามาใน 10 นาทีนี้ รับทันที! มูลค่า 2,000 บาทขอย้ำ!"

ยิ่งทุกวันนี้ทีวีดาวเทียมเข้าถึงแทบจะทุก หลังคาเรือน ทำให้การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทนี้ดูจะฮาร์ดเซลส์มากขึ้น และต่างก็แข่งขันกันเพิ่มความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งสรรพคุณราวกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์

อันตราย! สินค้าหลอกลวงเกลื่อนเมืองสื่อดาวเทียมตัวแพร่ระบาด

แม้จะมีการร้องเรียน มีความไม่ชอบมาพากลอยู่มากมาย สินค้าเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ มันเป็นข้อบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือที่เรียกกันว่า อาหารเสริมพวกนี้ขายได้ และการโฆษณาแบบฮาร์ดเซลส์พวกนี้ยังมีคนหลงเชื่อ หลงทดลองเพื่อค้นหาสิ่งที่จะมาช่วยให้ตัวเองหลุดพ้นออกจากปัญหาที่ตัวเองเจอ อยู่

เท่านั้นยังไม่พอ การโฆษณาชวนเชื่อของผลิตภัณฑ์มหัศจรรย์พวกนี้ ยังลุกลามไปถึงวิทยุ หรือแม้ฟรีทีวีโดยที่กลไกการจัดการปัญหาไม่สามารถทำอะไรการโฆษณาที่รู้ๆ กันว่าหลอกลวง เกินจริง และทำให้ผู้บริโภคที่หลงเป็นเหยื่อเสียหายได้เลย

หลากผลิตภัณฑ์อวดอ้างเกินจริง

ในท้องตลาดตอนนี้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอยู่มากมายและต่างก็มีกลเม็ดโฆษณา ทำการตลาดแตกต่างกันไป สิ่งที่เป็นจุดเดียวกันคือการมีสรรพคุณที่ดูดีเกินจริง โดยมักจะมีคำอธิบายในแบบของตัวเอง ซึ่งอาจสามารถแบ่งได้ 2ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณด้านความงามและเรื่องเพศ กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณด้านสุขภาพหรือรักษาโรคเรื้อรัง

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณด้านความงาม และเรื่องเพศ มีตั้งแต่สรรพคุณประเภททำให้ผิวขาวได้ในสิบสี่วัน รูปร่างกระชับ ผิวพันธ์มีน้ำมีนวลมากขึ้น มีอาหารเสริมเรียกเป็นโปรแกรมโดยมีสรรพคุณในการลดความอ้วนซึ่งมักจะบอกว่า ตัวเองไม่ใช่ยาลดความอ้วน แต่เป็นอาหารเสริมซึ่งอ้างว่า ไม่ต้องออกกำลังกาย แค่กินผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้วจะสามารถลดความอ้วนได้ บางตัวก็อ้างว่า ช่วยกระชับช่องคลอด โดยมีสโลแกนที่สองแง่สามง่ามว่า สวยใสภายในกระชับ

อีกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายกันอย่างคือผลิตภัณฑ์เสริมความงามอย่างครีม บำรุงผิวทรวงอก โดยมักจะอ้างสรรพคุณว่าสามารถทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งส่วนมากมีส่วนผสมของกวาวเครือ ขณะที่สำหรับหนุ่มๆ ก็มีสเปรย์ฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นการไหลเวียนของ เลือด ทำให้แข็งขันอดทน

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อวดอ้างสรรพคุณด้าน สุขภาพหรือรักษาโรคเรื้อรัง มีสรรพคุณในการรักษาโรคที่หลากหลาย บำรุงอวัยวะภายในลำไส้ ต่อมต่างๆ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลายชนิดอ้างว่า รักษาโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน ความดัน หรือแม้แต่มะเร็งได้ และบ้างก็สามารถแก้ไขอาการทางสุขภาพเล็กๆ น้อยๆ อย่างอาการปวดหลัง ปัสสาวะขัด

ในส่วนของการโฆษณาจะมีการใช้ดาราที่มีชื่อเสียงไม่มาก แต่พอให้มีความน่าเชื่อถือออกมาการันตีถึงตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมกันนั้นก็จะมีตัวอย่าง   ผู้ใช้ที่ออกมาพูดขอบคุณผลิตภัณฑ์นั้น พร้อมทั้งแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อตัวสินค้า และแสดงให้เห็นว่าผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นเป็นอย่างไรผ่านทางรูปร่างที่ ดูดี

จากนั้นอาจมีการอ้างอิงผลสำรวจ หรือการวิจัยบางอย่างที่ดูน่าเชื่อถือถึงประสิทธิภาพของอาหารเสริมนั้นๆ ต่อด้วยคำโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้สั่งซื้อ แล้วท้ายสุดก็ปิดฉากโฆษณาด้วยโปรโมชั่นอย่างโทร.มาในสิบนาทีนี้จะลดพิเศษ พร้อมของแถมจูงใจการซื้อ

ซึ่งผลของการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นไปได้ที่ผู้ใช้ส่วนหนึ่งอาจได้ผลลัพธ์ ที่พอใจ แต่ก็พบกรณีร้องเรียนมากมายถึงการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด กฎหมายไม่สามารถกระทำอวดอ้างได้ ทว่าปัญหาก็คือตอนนี้ยังไม่มีกลไกการลงโทษที่ทำให้โฆษณาเหล่านั้นหายไป เสียที

อันตรายที่ต้องรู้เท่าทัน

คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการร้องเรียนมากกว่า 100กรณีต่อ 1เดือนซึ่ง ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยาเผยว่า จากข้อมูลที่แยกเป็นประเภทของลักษณะการทำผิดกฎของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพบว่า การโฆษณาอวดอ้างถือเป็นกรณีที่มีการร้องเรียนมากที่สุด

"ประเด็นเรื่องโฆษณานี่เยอะที่สุด สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะอาหารไม่ใช่ยา เราไม่ให้โฆษณาสรรพคุณทางยา แต่ส่วนใหญ่แล้วทำขึ้นมาจะต้องโฆษณาสรรพคุณใช้ป้องกันรักษาได้ ซึ่งก็จะโอ้อวดเกินจริงทั้งสิ้น"

นอกจากนี้ก็มีการร้องเรียนเรื่องแหล่งผลิตยาปลอม เลขใบอนุญาตปลอม ซึ่งหลายครั้งก็ขยายผลไปสู่การดำเนินคดีและจับกุมปราบปราม โดยผลิตภัณฑ์อาหารอ้างสรรพคุณประเภทยา อย่างเช่น กาแฟลดความอ้วนหรือเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เธอเผยว่า หากใช้ได้ผล เป็นไปได้ที่จะมีการลักลอบใส่ยาเข้าไปซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้

ทั้งนี้มาตรการในการดำเนินการลงโทษนั้นมีตั้งแต่ระงับโฆษณา และดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับ ซึ่งหากไม่หยุดโฆษณาก็จะมีโทษที่หนักขึ้น โดยโฆษณาเหล่านี้จะพบเห็นบ่อยตามช่องทีวีเคเบิลดาวเทียม ในทางปฏิบัติก็มีการร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ในการควบคุม ทว่ากลับไม่มีอำนาจมากนัก เพราะยังคงพบการผ่าฝืนอย่างต่อเนื่อง

ในประเด็นการควบคุมลงโทษนั้น สารี อ่องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยว่า แม้อย.ร่วมกับกสทช.สั่งห้ามโฆษณาเหล่านี้ในสื่อทุกประเภท ทว่าในทางปฏิบัติอย่างการเผยแพร่สัญญาณนั้นจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือ จากบริษัท ไทยคม จำกัดในการตัดสัญญาณเพื่อปิดสถานีที่ฝ่าฝืนกฎ

"มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเคยร่วมกับเครือข่ายที่ทำเรื่องคุ้มครองผู้บริโภค 16จังหวัด สำรวจการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหาร และเสริมอาหารทั้งหลายที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย ไม่ขออนุญาตโฆษณา ซึ่งพบว่า มันมีปัญหาเยอะ แล้วเราก็เร่งผลักดันให้คณะกรรมการอาหารและยาอย่างที่ทำแล้วสำเร็จ(กับกรณี รังนกร้อยเปอร์เซ็นต์) และทาง กสทช.ได้เสนอให้ห้ามโฆษณาแล้ว แต่ก็ยังพบว่ามันก็ยังมีการโฆษณากันอยู่ เขาได้ขอความร่วมมือไปที่ไทยคม"

ต่อประเด็นนี้เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเห็นว่า ไทยคมมีความรับผิดชอบต่อกรณีนี้น้อยเกินไป โดยอ้างว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ แต่ความจริงแล้วหากไทยคมพบว่า สถานีต่างๆ ยังมีการโฆษณาโดยไม่ขออนุญาต หรือโฆษณาที่ไม่เป็นจริง ก็สามารถให้ปิดรายการหรือปิดสถานีได้เลย

"ไทยคมต้องดำเนินการตามนั้น หากไทยคมจะอ้างว่าตัวเองได้สัมปทานจากไอซีทีไม่ต้องทำตามกฎหมาย มันไม่ได้ เพราะว่าไทยคมเป็นคนดูแลหรือควบคุมโฆษณาของพวกนี้ผ่านพวกช่องดาวเทียมโดยตรง ขณะเดียวกัน กสทช. ก็จะบอกว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีกติกาที่กำกับดูแลเกี่ยวกับเรื่องนี้ จริงๆ เขาได้มีความร่วมมือกับ อย. ดังนั้น เคเบิลทีวีที่เป็นเท็จหลอกลวง มันทำไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็อยากให้ไทยคมร่วมมือ รวมถึงรายการที่เป็นโฆษณาที่ทางเคเบิลทีวีทั้งหลายด้วย"

สิ่งที่สำคัญคือ อย.กับ กสทช.ต้องมีเครื่องมือในการบังคับลงโทษ หากมีเพียงคำสั่งห้ามแต่ไม่มีกลไกที่ในการติดตาม การดำเนินการก็ไร้ผล และโฆษณาที่ชวนเชื่อเกินจริงก็ยังคงอยู่ ในส่วนของทางออกต่อเรื่องนี้เธอเห็นว่าผู้บริโภคเองต้องมีสติและรู้เท่าทัน ต่อการโฆษณาชวนเชื่อที่เกิดขึ้น

"ถ้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นอาหารแต่โฆษณาเป็นยา อันนี้หลอกลวงแน่นอน เพราะถ้าได้ผลต้องขึ้นเป็นยา ผู้บริโภคต้องคิดว่า เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องของเรา ถ้าสมมติ คนส่วนหนึ่งเขาอยากรู้ว่าจริงไม่จริง ถ้าจริงก็อยากใช้ ไม่จริงก็ไม่ใช้ คนพวกนี้ก็อยากมีข้อมูล แต่พี่คิดว่า มันพิสูจน์มาเยอะ มันเริ่มตั้งแต่ น้ำลูกยอ คอลลาเจน มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เยอะแยะไปหมด เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ พอถูกจับอันนี้ก็เปลี่ยนเป็นอันโน้น พวกนี้ส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ได้มันก็ไปเชื่อมโยงกับความโลภของคนที่ใช้กลไกส่ง เสริมการขายที่ให้ค่าตอบแทนที่สูง มันอาจจะทำให้ตัวผลิตภัณฑ์หมดไปยาก เราจะทำให้คนตื่นตัวเท่าทันเรื่องนี้ยังไง"

ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.เกียรติอนันท์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่เผยว่ามูลค่าทางการตลาดของธุรกิจผลิตเสริมอาหารสูงถึงปีละหนึ่งหมื่นล้าน บาท โดยสามารถแบ่งได้ตามรายได้ของกลุ่มลูกค้าซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่พบ ปัญหามากที่สุดคือ กลุ่มของผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งมักจะมีการทำการตลาดของผลิตภัณฑ์เป็นประเภทตีหัวเข้าบ้าน ทำกำไรระยะสั้นแล้วเลิกกิจการหรือเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแบรนด์มาลงตลาดใหม่

"กลุ่มที่มีรายได้สูงเขาก็มีเงินซื้อผลิตภัณฑ์ดีๆใช้ แต่กลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยเขาก็อยากจะมีสุขภาพดี อยากดูแลตัวเองเหมือนกัน แต่เขามีรายได้น้อยดังนั้นเขาจึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ราคาไม่สูงนัก และสามารถตอบโจทย์เขาได้"

ทั้งนี้หากมองในด้านกำไร ถ้าทำให้ผลิตภัณฑ์ออกมาดี ตอบโจทย์ได้ก็คงต้องใช้ต้นทุนที่สูง เขาจึงประเมินว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักใช้กลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้าน โดยผลิตสินค้าในจำนวนมากแต่ต้นทุนต่ำแล้วขายเพื่อให้ได้กำไรต่อหน่วยสูงๆ ทำกำไรในระยะสั้น ผลิตมา 100กล่อง ขายได้ 5-10กล่องก็ไม่ขาดทุนแล้ว โดยกลยุทธ์นี้จะควบคู่ไปกับกลยุทธ์ด้านราคา การจูงใจแบบฮาร์ดเซลส์ทั่วไปที่ใช้ได้กับกลุ่มคนที่ไม่ค่อยระมัดระวังในการ ซื้อสินค้านัก

ในการเป็นผู้บริโภคนั้น เขาทิ้งท้ายถึงข้อแนะนำว่า น่าจะเริ่มจากร้านที่น่าเชื่อถือได้ก่อน โดยถ้าจะให้ดีที่สุดอาจคุยกับแพทย์ก่อน หรือซื้อจากร้านยาที่ขายอาหารเสริมด้วย

"ถ้าปรึกษาหมอก่อนได้ก็ดี เพราะอาหารเสริมพวกนี้ถ้ากระบวนการผลิตไม่ดีนิดนึง มีสารตะกั่วอยู่ข้างใน แทนที่เราจะสุขภาพดีก็กลายเป็นมะเร็งได้ กลายเป็นโทษมากกว่า"

.....จากการที่กลไกการควบคุมโฆษณานั้นไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงผู้ที่จ้องฉกฉวยโอกาสทางธุรกิจ ทำมาหากินบนการหลอกลวงหนทางที่เปิดกว้างให้เห็นกำไร และความสำเร็จชนิดตีหัวเข้าบ้าน ทำให้โศกนาฏกรรมอย่างการกินอาหารเสริมที่เชื่อว่าจะรักษาโรค แต่กลับยิ่งทำให้โรครุมเร้าหนักขึ้นอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ท้ายที่สุดแล้วเรื่องของสุขภาพ และการเลือกบริโภคก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้บริโภคเองที่จำเป็นจะต้องรู้เท่าทัน ต่อตัวสินค้า และต่อคำหลอกลวงโฆษณาเกินจริง







ที่มา:หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ลดปัญหาข้อเข่าเสื่อมง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคที่พบมาก ในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีน้ำหนักมาก รวมถึงผู้ที่มีอาชีพที่ต้องใช้ข้อเข่ามาก ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อ อันเนื่องมาจากอายุมาก หรือมีการฉีกขาดและการถูกทำลายของพื้นผิวกระดูกอ่อนของข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวดเวลาขยับหรือลงน้ำหนัก การดำเนินของโรคเป็นแบบเรื้อรังโดยเกิดอาการตั้งแต่เป็นเพียงเล็กน้อย เช่น มีอาการปวด ขยับไม่ถนัด จนถึงมีความพิการของข้อนั้นๆ

ลดปัญหาข้อเข่าเสื่อมง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

โรคข้อเข่าเสื่อม ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่มีวิธีที่ทำให้อาการดีขึ้นและชะลอความเสื่อมให้ช้าลง ด้วยการดูแลบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพข้อเข่า ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้  ไม่เป็นภาระของคนในครอบครัว  และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ

นายแพทย์นันทศักดิ์ ธรรมานวัตร์ ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าว ถึงวิธีการลดอาการและป้องกันข้อเข่าเสื่อมอย่างง่ายๆ ด้วยตนเอง  สำหรับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม ว่าวิธีที่ได้รับการเชื่อถือว่าได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ  คือ การออกกำลังกายข้อเข่าที่เหมาะสม  เพราะสามารถช่วยลดอาการปวดและเพิ่มความสามารถในการงอเข่าได้เป็นอย่างดี  โดยรูปแบบของการออกกำลังกายสามารถทำได้ทั้งแบบปกติและในน้ำ ซึ่งมีหลักการสำคัญในการออกกำลังกาย อยู่ 3 วิธี คือ

1. การบริหารเพื่อกระตุ้นให้งอพับเข่าได้มากขึ้น 2. การให้กล้ามเนื้อรอบๆเข่าแข็งแรง สามารถยืนหรือเดินได้เวลานานๆ  3. การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข เช่น การปั่นจักรยานอยู่กับที่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้เช่นกัน นั่นคือ การใช้เครื่องมือเครื่องช่วยต่างๆ ที่เหมาะสม  อาทิ  การใช้ไม้เท้าร่วมกับการเดิน  การทำรองเท้าเสริมที่ส้นให้เหมาะสมการใช้สายรัดพยุงข้อเข่า เช่น Knee Support ต่างๆ ก็จะช่วยเสริมให้อาการข้อเข่าเสื่อมดีขึ้นเช่นกัน

จะพบว่า  การป้องกันและลดอาการข้อเข่าเสื่อมนั้นทำได้ไม่ยาก  เพียงควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน โดยการจำกัดอาหารประเภทของมัน ของหวาน หลีกเลี่ยงการใช้งานหนักไม่ให้อ้วโดยการจำเกินกำลัง และบริหารร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ  จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

สำหรับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมหรือผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับคู่มือโรค ข้อเข่าเสื่อมได้ที่สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ในวันและเวลาราชการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

        





ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ผลสำรวจจากทาเคดาเผยพบชาวไทยป่วยเป็น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในประเทศไทย มากถึงร้อยละ 5

ผลสำรวจจากทาเคดาเผยพบชาวไทยป่วยเป็น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในประเทศไทย มากถึงร้อยละ 5

ศาสตราจารย์แพทย์หญิง สุมาลี เกียรติบุญศรี (กลาง) หน่วยโรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และนายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และรศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ (ขวา) ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายแพทย์รัตน์ เชื้อชูวงศ์ (ซ้าย) แพทย์ที่ปรึกษา บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแถลงข่าวเผยผลการสำรวจล่าสุดจาก “ระบาดวิทยาและผลกระทบจากโรคปอดอุดกั้น เรื้อรังในทวีปเอเชีย” (Epidemiology and Impact of COPD in Asia’ survey หรือ EPIC Asia Survey) พบว่าโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือ COPD ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ทว่าผู้ป่วยส่วนมากกลับยังไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรคนี้ จึงไม่ได้เข้ารับการตรวจรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม และพร้อมเตือนคนไทยว่าโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเป็นโรคร้ายอันเป็นภาระหนักของ ผู้ป่วยในทวีปเอเชีย 
โดยโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทั้งยังทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก เนื่องจากปอดถูกทำลายและเกิดอาการอักเสบ โรคกลุ่มนี้ยังเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณการว่ามีผู้ป่วยจากโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอยู่กว่า 65 ล้านคนทั่วโลก ปัจจุบัน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 ของโลก และอาจขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 3 ในปี 2573 อีกด้วย โดยในปี 2548 นั้น มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ถึง 3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 5 ของจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทุกสาเหตุทั่วโลก ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคปอดอุดกั้น เรื้อรังเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 ในอีก 10 ปีข้างหน้า นอกเสียจากว่าจะมีการจัดการป้องกัน และรณรงค์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมสูบบุหรี่ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักของโรค
- ชาวไทยอายุมากกว่า 40 ปี ป่วยเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ประมาณ ร้อยละ 5
- กว่า 2 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในประเทศไทยไม่รู้ตัวว่าตนเองป่วยเป็นโรคนี้
- 1 ใน 6 ของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง เป็นผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มอาการรุนแรง ซึ่งรวมถึง:
- ภาวะโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังระยะรุนแรงหรือรุนแรงมาก หรือ
- ตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง มีอาการไอ มีเสมหะมาก และยังมีอาการกำเริบเฉียบพลันบ่อยครั้ง (อย่างน้อย 2 ครั้งในรอบปีที่ผ่านมา)
- มากกว่าครึ่งของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในไทยต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการกำเริบเฉียบพลันในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา



ที่มา : Press Release
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ตรวจหาเชื้อเสี่ยงลด 'มะเร็งมดลูก'

ผู้เชี่ยวชาญสุขภาพเพศหญิงแนะตรวจหาเชื้อ HPV มีความเสี่ยง ช่วยลดการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ ระบุมะเร็งร้ายนี้คร่าหญิงเกือบ 500,000 คนต่อปี หญิงไทย 14 คนต่อวัน

ตรวจหาเชื้อเสี่ยงลด 'มะเร็งมดลูก'

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศหญิงทั่วโลกร่วมประชุมในงาน Asia Oceania Research Organization on Genital Infections and Neoplasia (AOGIN) ที่ฮ่องกง มีความเห็นร่วมกันให้ทบทวนนโยบาย การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกในทวีปเอเชีย เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกันได้นี้ ซึ่งในแต่ละปีสตรีทั่วโลกเกือบ 500,000 คน ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายนี้ และครึ่งหนึ่งต้องเสียชีวิตลง โดยส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ส่วนในไทยข้อมูลสำรวจประชากรไทย พ.ศ. 2553 พบว่ามีหญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกและเสียชีวิตเฉลี่ย 14 รายต่อวัน และไทยติดอันดับ 4 ของกลุ่มประเทศตะวัน ออกเฉียงใต้ที่พบอัตราการเสียชีวิต จากมะเร็งปากมดลูกสูงสุด

ทั้งนี้ สาเหตุหลักของมะเร็งชนิดนี้คือ เชื้อไวรัส Human Pa-pillomavirus (HPV) ที่ทำให้เกิดโรคกว่าร้อยละ 99 โดยเชื้อ HPV มี 14 สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงทำให้เกิดโรค และสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงสุด และก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกถึงร้อยละ 70 ในกลุ่มสตรีทั่วโลก

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการตรวจหาเชื้อที่มีความเสี่ยงสูงสำคัญมากในการที่ จะลดอัตราโรคมะเร็งปากมดลูกในภูมิภาค เนื่องจากการตรวจคัดกรองโดยวิธีแปปสเมียร์ (Pap smear) เป็นการหาความผิดปรกติของเซลล์ในปากมดลูกมากกว่าการตรวจหาเชื้อ และยังมีเจ้าหน้าที่ห้องแล็บที่เชี่ยวชาญสูงในการแปลผล ซึ่งเวลานี้มีเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยตรวจวินิจฉัยเชื้อ HPV ในร่างกายแล้ว

ตัวอย่างเทคโนโลยีนี้รวมถึงโซลูชั่นการตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างครบวงจร ของบริษัทโรช ไดแอกโนสติกส์ ที่ตรวจเชื้อ HPV สาย พันธุ์เสี่ยงสูงอย่างสายพันธุ์ 16และ 18และอีก 12สายพันธุ์ได้ในการตรวจเพียงครั้งเดียว ซึ่งการศึกษาในสหรัฐพบว่าสตรีที่มีเชื้อ HPV สาย พันธุ์ 16และ 18มีความเสี่ยงสูงกว่า สตรีทั่วไปถึง 35เท่าในการพัฒนารอยโรคก่อนมะเร็งปากมดลูก







ที่มา:หนังสือพิมพ์โลกวันนี้
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks