น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

สคร.5 เตือนภัย เด็กไทยจมน้ำเสียชีวิต

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

         
            สคร.5 เตือนภัย เด็กไทยจมน้ำเสียชีวิต แนะทางแก้ ให้สอนเด็กว่ายน้ำให้เป็นในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ในแต่ละปีมักมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กอายุ 6-10 ปี ผลการสำรวจชี้ เด็กไทยว่ายน้ำเป็นมีเพียง 2 ล้านคน สคร.5 โดย กรมควบคุมโรค เตือนผู้ปกครองอย่าปล่อยลูกหลานเล่นน้ำตามลำพัง อย่าลงไปช่วยคนจมน้ำโดยที่ตนเองว่ายน้ำไม่เป็น 
          นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวถึง ภัยจากการจมน้ำของเด็กไทยว่า อากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้เด็กมักจะแอบไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือแหล่งน้ำใกล้บ้าน และบ่อที่ขุดเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม คือเดือนเมษายน-พฤษภาคม มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุ 6-10 ปี ซึ่งจากผลสำรวจในกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี ทั่วประเทศประมาณ 13 ล้านคน พบว่า ว่ายน้ำเป็นเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น
          ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวต่อไปว่า เพื่อป้องกันเด็กจมน้ำเสียชีวิต จึงขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง สอนเด็กให้ว่ายน้ำเป็น แต่ก็ไม่ควรปล่อยลูกหลานเล่นน้ำตามลำพัง และสอนวิธีการช่วยเหลือคนจมน้ำ อย่าโดดลงไปช่วยโดยที่ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นเช่นกัน แต่ให้ใช้ไม้ยาวให้คนจมน้ำจับแล้วลากเข้าฝั่ง หรือใช้อุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้เช่นแกลลอนเปล่า เพื่อให้ผู้ที่กำลังจมน้ำเกาะพยุงตัว หรือตะโกนขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ เนื่องจากที่ผ่านมามักพบว่าเด็กจะเสียชีวิตคราวละหลายคน จากการลงไปช่วยเพื่อนที่จมน้ำ



ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ออกกำลังหน้าท้องในท่ายืน "เวิร์ก" กว่า

คนส่วนใหญ่คิดว่า การออกกำลังหน้าท้องต้องทำในท่านอนเท่านั้น เช่น ท่าซิตอัพ แต่อันที่จริงแล้วท่ายืนก็ทำได้ และยังช่วยเลี่ยงอาการบาดเจ็บต่างๆ ได้ด้วย
การออกกำลังหน้าท้องในท่ายืนเหมาะสำหรับคนเริ่มหัดเล่นใหม่ๆ เป็นการเตรียมกล้ามเนื้อหน้าท้องให้พร้อมสำหรับการเล่นในท่าที่ยากขึ้น
ประโยชน์ของการเล่นในท่ายืนก็คือ ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บ
คนจำนวนมากออกกำลังหน้าท้องในท่วงท่าที่ผิดหลัก เวลาเล่นในท่านอน ต้องยกช่วงคอและไหล่ให้พ้นจากพื้น แต่จำนวนไม่น้อยใช้วิธีใช้มือพยุงช่วยยกต้นคอเพื่อชันตัวขึ้นวิธีนี้ไม่ได้ ช่วยให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลัง และยังทำให้ปวดคอด้วย ถ้าทำในท่ายืน ผู้เล่นจะสามารถควบคุมคอและไหล่ได้ดีกว่าในท่านอนนอกจากนี้ เวลาอยู่ในท่านอน หลายคนมักใช้ขาและสะโพกช่วยถ่วงน้ำหนักเพื่อชันตัวขึ้น แทนที่จะเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อยกตัว
เวลาเล่นซิตอัพ บางคนใช้วิธีเหวี่ยงแขวนไปข้างหน้าเพื่อสวิงตัวขึ้น วิธีนี้ก็ไม่ได้ช่วยออกกำลังกล้ามเนื้อท้องเช่นกันดังนั้น การออกกำลังหน้าท้องในท่านอนจึงมีข้อด้อยหลายอย่าง ในที่นี้ขอแนะนำท่ายืนบางท่า
ท่าแรก คือ ยกเข่าไขว้ เริ่มด้วยการยืนกางขาเท่าความกว้างของช่วงไหล่ ในมือถือดัมเบลล์ (หรือไม่ต้องถือก็ได้) ยกแขนขวาที่ชูดัมเบลล์ขึ้นเหนือศีรษะ มืออีกข้างเท้าสะเอวไว้เพื่อทรงตัว แล้วลดแขนลงพร้อมกับยกเข่าข้างซ้ายไขว้กับแนวลำตัว ให้ข้อศอกกับหัวเข่าบรรจบกัน นิ่งในท่านี้สัก 1 วินาที จากนั้นทำสลับกันโดยใช้แขนและเข่าอีกข้างหนึ่ง ที่สำคัญ ต้องยกเข่าให้สูงพ้นระดับสะโพก ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลัง
ท่าที่สอง ปั่นจักรยานในท่ายืน คนส่วนมากมักเล่นท่าปั่นจักรยานในท่านอน แต่การใช้ท่ายืนก็ให้ผลอย่างเดียวกันได้
ยืนกางขาเท่าความกว้างของสะโพก ยกสองมือประสานไว้ที่ท้ายทอย กางข้อศอกออกกว้าง ยกเข่าขวาขึ้นไขว้กับแนวลำตัวในระดับความสูงเท่าสะโพกเป็นอย่างน้อย ยกเข่าค้างไว้ พร้อมกับก้มตัวเอาข้อศอกซ้ายแตะเข่าข้างที่ยกนั้น ทำสลับข้างกันหลายๆ ครั้ง
ท่าที่สาม เข่ากระแทกมะพร้าว ยืนยื่นขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าในลักษณะงอเล็กน้อย ขาอีกข้างเหยียดไปด้านหลัง ชูมือสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ
ชักเข่าข้างที่อยู่ข้างหน้าขึ้น พร้อมกับลดสองแขนลงมาหาเข่า ทำเสมือนว่าสองมือถือลูกมะพร้าวไว้ ต้องการจะใช้เข่ากระแทกมะพร้าวนั้น จากนั้นสลับเข่าอีกข้างไปด้านหน้า แล้วเริ่มทำแบบเดียวกัน


ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

สอนลูกจัดการกับความเจ้าอารมณ์ของตัวเอง

สอนลูกจัดการกับความเจ้าอารมณ์ของตัวเอง

ไม่มีเด็กคนไหนเกิดมาแล้วไม่เคย โกรธ…เพราะฉะนั้นพ่อแม่ไม่ต้องเครียดเมื่อลูกมีอาการโกรธ โมโห เพราะจัดเป็นอารมณ์ชนิดหนึ่งของมนุษย์กันเลยทีเดียว ไม่ใช่เป็นสิ่งไม่ดี หรือเป็นความผิด แต่เป็นอารมณ์ที่เด็กต้องการส่งสัญญาณบางประการให้พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ได้รับ รู้ว่าหนูเกิดความไม่พอใจต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แต่ประเด็นคือ เมื่อมีอาการโกรธ หรือโมโหแล้ว เจ้าตัวเล็กของเราสามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้หรือเปล่าต่างหาก และก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องตระหนัก และต้องหาทางช่วยให้ลูกจัดการอารมณ์ของตัวเองให้ได้ มิเช่นนั้นแล้วเขาหรือเธอตัวน้อยอาจติดพฤติกรรมโมโหร้าย หรือเจ้าอารมณ์ไปจนโตก็ได้
แล้วถ้าเจ้าตัวเล็กของเราเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ล่ะ ..!!
ประการแรก เริ่มจากการตรวจสอบตัวเองก่อนว่าเราเป็นพ่อแม่ที่ชอบตามใจลูก หรือตอบสนองลูกทุกครั้งที่ลูกต้องการสิ่งใดๆ โดยไม่ได้สนใจว่าเหมาะสม ควรหรือไม่ควร แต่ไม่อยากขัดใจลูกหรือไม่ ถ้าใช่แล้วล่ะก็ต้องปรับตัวเองก่อนว่าจากนี้ไปจะไม่ตามใจลูกพร่ำเพรื่อ ควรจะมีขอบเขต บางอย่างก็ต้องขัดใจบ้าง แต่เวลาขัดใจต้องอธิบายให้ลูกฟังด้วยว่าเพราะอะไร
และถ้าพ่อแม่ประเภทนี้ไม่เริ่มจากการปรับตัวเองก่อนล่ะก็ ยากที่จะสอนลูกให้จัดการอารมณ์ของตัวเองได้แน่
ประการที่สอง ควรฝึกให้ลูกรู้จักสังเกตอารมณ์ของตัวเอง ให้สังเกตว่าอะไรคือสัญญาณเริ่มต้นของอารมณ์โกรธของตัวเอง เช่น อึดอัด หายใจแรง กล้ามเนื้อเกร็งตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มือเย็น เหงื่อแตก ฯลฯ และเมื่อพบว่ามีอาการเหล่านี้ ก็ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า ถ้าหากมีพฤติกรรมเหล่านี้ ให้พยายามหายใจเข้าลึกๆ และฝึกให้ผ่อนอารมณ์ เช่น นับหนึ่งถึงร้อย หรือให้นึกถึงเรื่องที่ลูกคิดถึงแล้วสบายใจ
ประการที่สาม ฝึกให้ลูกระบายความรู้สึกเมื่อเกิดอารมณ์โกรธหรือไม่พอใจ ให้เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้พ่อแม่ฟัง ซึ่งหมายความว่า พ่อแม่ต้องพร้อมทุกเมื่อที่จะรับฟังลูกเมื่อลูกต้องการเรา และเมื่อรับฟังเรื่องราวจากลูกแล้ว ก็ต้องสอบถามอารมณ์ความรู้สึกว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร เพื่อให้เขาได้เรียนรู้อารมณ์ของตัวเองด้วย จากนั้น พ่อแม่ค่อยๆ ให้คำแนะนำเพื่อให้อารมณ์ของลูกกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้ได้ก่อน
ประการที่สี่ พาลูกออกไปจากบรรยากาศที่ทำให้เขาเกิด สภาวะอารมณ์โกรธ หรือไม่พอใจ เพื่อเบี่ยงเบนสถานการณ์ ถ้าเป็นเด็กเล็กก็สามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย แต่ถ้าลูกโตก็ต้องใช้เวลาและเทคนิคของพ่อแม่มากหน่อย
ประการที่ห้า ชวนทำกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าจะช่วยให้ลูกผ่อนคลาย เช่น ชวนไปเดินเล่น วาดรูป ชวนไปกินไอศกรีม หรือกิจกรรมโปรดของลูก เพื่อให้คลื่นลมพายุในใจลูกสงบซะก่อน
ประการสุดท้าย เมื่ออารมณ์พุ่งพล่านสงบเข้าสู่สภาวะ ปกติแล้ว อย่าลืมที่จะชวนลูกพูดคุยว่าต้นตอของความโกรธเกิดจากอะไร และเขาคิดอย่างไรกับสถานการณ์นั้นๆ แล้วอาจลองโยนคำถามหรือเสนอแนะทางออกว่าถ้าทำอย่างนี้ หรือแก้ปัญหาแบบนี้จะดีกว่าไหม จากนั้นก็ควรสอบถามว่าเมื่อเกิดอารมณ์โกรธแล้วผลที่ตามมาเป็นอย่างไร ยิ่งถ้าหากลูกมีอารมณ์โกรธแล้วขว้างปาข้าวของเสียหาย หรือทำให้ผู้อื่นหรือตัวเองเจ็บตัว ผลที่ตามมาคืออะไร เพื่อให้เขาได้ลำดับเหตุการณ์และคิดถึงผลเสียที่ตามมาหากไม่สามารถควบคุม อารมณ์ของตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนเป็นพ่อแม่แล้วย่อมไม่อยากให้ลูกมีอารมณ์โกรธ หรือเป็นเด็กเจ้าอารมณ์อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นถ้าพ่อแม่ปลูกฝังให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส มองโลกในแง่ดี จะช่วยสร้างพื้นฐานด้านอารมณ์ที่ดีให้กับลูกได้ เพราะคนที่มีทักษะทางอารมณ์ที่ดี คือคนที่รู้จักและเท่าทันอารมณ์ตัวเอง และมีโอกาสที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดีกว่า เพราะพื้นฐานอารมณ์มีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย และมีความมั่นคงทางอารมณ์
แน่นอนว่า วิธีที่จะส่งเสริมให้ลูกมีพื้นนิสัยอารมณ์ดี ก็ต้องเริ่มจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ด้วยความรัก ความเข้าใจ โอบกอดสัมผัสอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เกิดความไว้วางใจ เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นที่รัก ไม่ถูกทอดทิ้ง ซึ่งเป็นรากฐานของการเห็นคุณค่าในตัวเอง
รวมไปถึงการส่งเสริมให้เด็กได้ทำในสิ่งที่ต้องการ เปิดโอกาสให้เด็กได้คิดหรือแก้ปัญหาสิ่งใดก็ตาม โดยไม่ลืมที่จะชื่นชมหรือให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะช่วยเรื่องพื้นฐานทางด้านอารมณ์ของลูกด้วย ก็คือ การส่งเสริมกิจกรรมที่ลูกได้แสดงความรู้สึกและอารมณ์ เช่น เล่านิทาน ดนตรี ศิลปะ การเล่น ฯลฯ เพราะจะช่วยฝึกเรื่องสมาธิหรือการจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วย และสิ่งนี้ยังเป็นฐานของการพัฒนาไปสู่ความมุมานะ พยายามตั้งใจได้อีกด้วย
อย่าลืมว่าสังคมยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เด็กยุค ใหม่เป็นเด็กหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห เพราะเป็นสังคมแห่งความเร่งรีบ สังคมแห่งเทคโนโลยีที่เป็นตัวปลุกเร้ากระตุ้นอารมณ์เด็กรุ่นใหม่อยู่ตลอด เวลา
แต่สิ่งสำคัญที่สุด พ่อแม่ต้องไม่ตกเป็นทาสความเจ้าอารมณ์ของตัวเองด้วย เพราะถ้าพ่อแม่ไม่สามารถจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ ก็อย่าได้หวังที่จะสอนให้ลูกจัดการอารมณ์ได้ด้วยเช่นกัน ..!!!


ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ    




PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

กินครบมื้อการันตีหุ่นดี

ซอนย่า โกเมซ มาติเนซ นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์อาหาร เทคโนโลยีและโภชนาการ ประเทศสเปน รวบรวมข้อมูลของเด็กๆ ระหว่างอายุ 8-18 ปี จำนวน 1,978 คน พบว่า เด็กที่กินอาหารวันละ 4 มื้อ ส่วนใหญ่มีร่างกายผอมเพรียว และน้ำหนักน้อยกว่ากลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่เอาแต่อดอาหารเพราะ กลัวอ้วน ยิ่งอดนาน ก็ยิ่งหิว ในที่สุดก็ทนไม่ไหว กลายเป็นเขมือบได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า และจบลงด้วยโรคอ้วน โรคกระเพาะ รวมถึงเสี่ยงต่อโรคบูลิเมีย และอนอเร็กเซียในภายหลัง
นักวิจัยเลยแนะนำวัยรุ่นวัยเรียนให้กินอาหารครบ 5 หมู่ ไม่อดมื้อกินมื้อ และควรกินอาหารเช้าเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายในวัยกำลังโตได้รับสารอาหารเต็มที่ พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงหนุ่มสาว โดยพื้นฐานอาหารในแต่ละวัน เด็กๆ ควรดื่มนม 3-4 แก้ว ผักผลไม้ 5 ส่วน เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ 2 ส่วน และแป้ง 6 ส่วน


ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด 




PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks