น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

แป๊ะก๊วยเป็นพืชที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 270 ล้านปีก่อน

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

ทุกครั้งที่พูดถึงคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคความจำเสื่อม เราจะนึกถึงพรรณไม้ชนิดหนึ่ง นั่นคือต้นแป๊ะก๊วย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gingko biloba L. เป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดจากทางตะวันออกของประเทศจีน แถบภูเขาด้านตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้
ลักษณะพิเศษ
จะผลัดใบไม่พร้อมกันทุกต้น แต่เมื่อผลัดใบ ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วร่วงหล่นทั้งต้นภายในไม่กี่วัน
แป๊ะก๊วยเป็นพืชที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 270 ล้านปีก่อน ถือกำเนิดขึ้นในยุคเพอร์เมียน เมื่อประมาณ 290 ล้านปี มาแล้ว และมีชีวิต ต่อมาในมหายุคมี โซโซอิก ในสมัยเดียวกับไดโนเสาร์ จึงเป็นอาหารของไดโนเสาร์กินพืช
แป๊ะก๊วย มีความหมายว่า
"ลูกไม้สีเงิน" ชื่อดั้งเดิมในภาษาจีนเรียกว่า ต้น "หยาเจียว" แปลว่าตีนเป็ด ดูจากลักษณะใบคล้ายตีนนกเป็ดน้ำ
สารที่สกัดได้จากใบแป๊ะก๊วยมีหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตาได้ เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปสู่สมอง ปลายมือปลายเท้า ใช้รักษาโรคความจำเสื่อม โรคซึมเศร้า อาการหลงๆ ลืมๆ อันเนื่องมาจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอในผู้ป่วยสูงอายุ
ผลแป๊ะก๊วยที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารจีนหลากหลายชนิด มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง ช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก



ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน โดย แมนวดี
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

เป็นไมเกรนต้องเลี่ยงอะไร

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดไมเกรนมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย ที่ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงมีดังต่อไปนี้ 
 
เป็นไมเกรนต้องเลี่ยงอะไร
 
1. อาหารที่มีสารกระตุ้นอาการเริ่มแรกของไมเกรน เช่น ไนไทรต์ ซึ่งพบในเบคอน ฮอตดอก และเนื้อหมัก ไทรามีน พบในไวน์แดง ตับไก่ อาหารที่ใช้ยีสต์ แทนนิน พบมากในถั่วเปลือกแข็ง น้ำแอปเปิล องุ่น เบอร์รี่ ชา กาแฟ และไวน์แดง ซัลไฟต์ ที่ใช้ในการหมักไวน์และผลไม้แห้ง โมโนโซเดียมกลูตาเมตหรือผงชูรส นอกจากนั้นแล้วยังมีช็อกโกแลต เนยแข็ง อาหารทอด และผลไม้จำพวกส้ม
 
2. น้ำตาลในเลือดต่ำ เนื่องจากหิวหรือกินอาหารคาร์โบไฮเดรตขัดขาวมากเกินไป
 
3. อยู่ในภาวะขาดน้ำ
 
4. ความเครียด และความวิตกกังวล รวมถึงอาการช็อก
 
5. นอนหลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
 
6. อยู่ในที่ที่แสงจ้า หรือได้รับแสงจ้าเกินไป
 
7. อยู่ในสถานที่หรือได้รับฟังเสียงดัง
 
8. การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือฤดูกาล อากาศแห้งหรือลมร้อนแห้ง
 
9. การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายหรือการกินยาคุม
 
 
 
 
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามดารา
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

คร.เร่งรณรงค์ป้องกันวัณโรค ลดอัตราเสียชีวิตไม่เกิน 5% ในปี59

อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า  WHO จัดให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 22 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรครุนแรง ซึ่งในปี 2554 สถานการณ์วัณโรคของประเทศไทย มีความชุก คือ 182/100,000 ประชากร หรือประมาณ 130,000 ราย
นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วัณโรคเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 22 ประเทศที่มีปัญหาวัณโรครุนแรง ซึ่งในปี 2554 WHOได้คาดประมาณสถานการณ์วัณโรคของประเทศไทย มีความชุก คือ 182/100,000 ประชากร หรือประมาณ 130,000 ราย มีอัตราอุบัติการณ์การเกิดวัณโรครายใหม่ คือ 137/100,000 ประชากร หรือประมาณ 94,000 ราย และอัตราตาย 16/100,000 ประชากร หรือประมาณ 11,000 ราย และรวมถึงผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานในแต่ละปีของประเทศไทย มีจำนวน 1,920 ราย
นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานควบคุมวัณโรคในประเทศไทยได้มีมานานแล้ว โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เห็นได้จากหลักฐานสำคัญที่ปรากฏมาจนทุกวันนี้คือ บทความเกี่ยวกับวัณโรคชื่อ “โรคทุเบอร์คุโลสิส” ที่ได้ทรงสนพระทัยและนิพนธ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2463 และได้มีพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2472 ถึงหลวงนิตย์ เวชช์วิศิษฐ์ มีพระราชปรารภตอนหนึ่งว่า “TB มีมากเต็มที และไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่มีโรงพยาบาลพิเศษหรือ Sanatorium สำหรับรักษารายที่ไม่หนักนัก การเรื่อง TB นั้นทำให้ฉันสนใจมาก อยากให้มี Anti TB Society” ด้วยสำนึกและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ เนื่องในโอกาสวันมหิดล วันที่ 24 กันยายน 2555 กรมควบคุมโรค จึงมีกิจกรรมและดำเนินการเพื่อเร่งรัดงานวัณโรคอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังที่จะลดความรุนแรงและป้องกันการแพร่ระบาดของวัณโรคให้มากที่สุด
จากผลการดำเนินงานในปี 2553 พบผู้ป่วยวัณโรครายใหม่เสมหะพบเชื้อ มีอัตราความสำเร็จในการรักษาร้อยละ 87 และพบปัญหาการเสียชีวิตร้อยละ 7 และขาดยาร้อยละ 3 ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มีอัตราความสำเร็จในการรักษาร้อยละ 85 การเสียชีวิตร้อยละ 8 และขาดยาร้อยละ 5 เนื่องจากในปีดังกล่าว สธ.มีนโยบายเร่งรัดการดำเนินงานด้านวัณโรคอย่างเข้มข้น โดยมีกิจกรรมเพื่อเร่งรัดการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก วินิจฉัยและรักษาให้เร็ว มีการพัฒนาคุณภาพกลวิธีการรักษาด้วยระบบยาระยะสั้นแบบมีพี่เลี้ยง (DOT) โดยมีพี่เลี้ยงทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตขณะผู้ป่วยกลืนยา เพื่อให้ผู้ป่วยวัณโรครับประทานยาสม่ำเสมอและครบถ้วน เป็นการป้องกันเชื้อวัณโรคดื้อยาด้วย โดยกำหนดเป้าหมายสำคัญ คือ ลดการเสียชีวิตน้อยกว่าร้อยละ 5 ลดการขาดยาเป็นศูนย์ ภายในปี 2559 โดยขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนดำเนินการตามกิจกรรมหลัก ดังนี้
 1. เร่งรัดคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง เช่น ในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์ กลุ่มผู้สัมผัสร่วมบ้าน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง เบาหวาน เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการโดยเร็ว ตัดวงจรการแพร่เชื้อ ลดความรุนแรงและการเสียชีวิต
2. ให้ผู้ป่วยวัณโรคมีโอกาสเข้าถึงการรักษาตามมาตรฐานทุกราย ให้การสนับสนุน ควบคุมกำกับ ติดตามเพื่อลดปัญหาการขาดยา
3. พัฒนาเทคโนโลยีการวินิจฉัยวัณโรคที่รวดเร็ว โดยเฉพาะการวินิจฉัยวัณโรคดื้อยา
4. สร้างเครือข่ายเสริมสร้างความรู้เรื่องวัณโรคสู่ภาคประชาชน
 “คำแนะนำสำหรับประชาชนทั่วไป ในการสังเกตอาการของวัณโรค โดยอาการจะเริ่มจากไอเรื้อรังเกินกว่า 2 อาทิตย์ มีไข้ต่ำๆ ในช่วงบ่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ซึ่งประชาชนมักเข้าใจผิดว่าป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา จึงมักซื้อยามากินเอง และอาการของโรคนี้จะไม่รุนแรง ยังทำงานได้ปกติ จึงทำให้เชื้อโรคแพร่ไปสู่คนอื่นได้ โดยเชื้อนี้จะอยู่ในเสมหะ ลอยไปในอากาศ หากพบผู้ที่มีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพาไปโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้บ้านเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาให้เร็วที่สุด หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 1422 และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทรศัพท์ 0 2590 3333” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว



ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

สังคมไทยน่าห่วง ผู้หญิงนิยมเสพ “ไอซ์” หวัง ขาว ผอม สวย ยอดบำบัดปี 55พุ่งเป็น 1.7 หมื่นราย

กรมการแพทย์ เผยปัจจุบัน สังคมไทยเผชิญกับหายนะยาเสพติดตัวใหม่ “ไอซ์" ที่ผู้ขายใช้กลยุทธ์ชวนเชื่อว่า เป็นยาเสพติดชั้นสูง ผู้เสพไม่อันตรายไม่ติด แต่ช่วยให้ หุ่นดี ผอม ขาวสวย ซึ่งความจริง “ไอซ์” เป็นยาเสพติดที่มีฤทธิ์ร้ายแรงทำลายสมอง ยอดการบำบัดจาก 243 ราย ในปี 2551 พุ่งทะลุเป็น 17,100 ราย ในปี 2555
แพทย์หญิงวิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังการมอบใบกิตติกรรมประกาศแก่จังหวัดที่มีผลงานดีเด่นด้านการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดดีเด่นของประเทศ ภายในงานประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ ครั้งที่ 13 “ร่วมแรง ร่วมใจ ฝ่าวิกฤติยาบ้า ไอซ์ ด้วยพลังแผ่นดิน” ว่าปัญหายาเสพติด ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ต้องเร่งบำบัดโดยด่วน เพื่อให้ผู้เสพติดมีโอกาสหายและเลิกยาได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติดด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ ของสถาบันธัญญารักษ์ ว่าตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2554 ถึง 30 มิถุนายน 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัดรักษาทั่วประเทศ จำนวน 192,283 คน จากการคาดประมาณผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดทั่วประเทศมีมากกว่า 1 ล้านคน
ที่น่าเป็นห่วงคือสัดส่วนการเสพยาไอซ์ในผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ จากเดิม 2-3% เมื่อเทียบกับสัดส่วนการใช้ยาบ้า แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็น 25% หรือ 1 ใน 4 ของผู้หญิงที่ใช้ยาเสพติดทุกประเภท และ 15% ในผู้ชาย ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงที่เสพยาไอซ์เพิ่มขึ้นเพราะหลงเชื่อจากคำชักจูงว่าเสพยาไอซ์แล้วจะช่วยให้ผิวขาว หุ่นดี สวย จึงถือว่าถูกหลอก เพราะยาไอซ์ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว แต่เป็นยาเสพติดประเภทออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท มีผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้ผู้เสพเกิดอาการทางจิตประสาท หูแว่ว เห็นภาพหลอน อารมณ์รุนแรง ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น บางรายถึงฆ่าตัวตาย
นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาไอซ์ไม่ได้มีโครงสร้างหรือองค์ประกอบใด ที่จะช่วยให้ผู้เสพมีผิวขาวใส หุ่นดี ยาไอซ์เป็นเพียงยาบ้าชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกัน โดยยาบ้าเป็นสารเสพติดที่มีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน คาเฟอีน แป้ง สารหนู ฯลฯ แต่ยาไอซ์สกัดจนได้เมทแอมเฟตามีน 100 % ทำให้เสพติดง่าย ออกฤทธิ์รุนแรงกว่ายาบ้า 10 เท่า ยาไอซ์มีลักษณะเป็นเกล็ดผลึกโปร่งใสคล้ายกระจก หรือน้ำแข็ง ผสมสีฟ้า ชมพู เขียว มีชื่อเรียกในกลุ่มผู้เสพว่า คริสตัลเมธ ชาบู แคร็งค์ ทวีค และทิน่า การเสพยาไอซ์อย่างต่อเนื่อง จะทำให้สมองเกิดการเปลี่ยนแปลง มีรายงานทางวิชาการซึ่งยืนยันโดยภาพภ่ายจาก MRI เปรียบเทียบให้เห็นผลก่อนและหลังได้รับยาไอซ์ ว่าการเสพยาไอซ์และยาบ้า สารเคมีในตัวยาเหล่านั้นจะทำลายเซลล์สมอง พบการติดสี ซึ่งแสดงว่าเส้นเลือดไปถึงบริเวณนั้นๆ แตกต่างกัน จึงยืนยันได้ว่าการเสพยาไอซ์ในปริมาณมากเป็นเวลานาน จะทำให้หลอดเลือดหดตัวและตีบ ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงร่างกายและสมองทำให้เซลล์บางส่วนตาย ทำให้ผู้หญิงที่เสพยาไอซ์มีผิวซีด สมองสั่งงานช้า มีอาการเบลอ หลงๆลืมๆ และหากเป็นหญิงที่ตั้งครรภ์จะมีผลกระทบต่อสติปัญญาของทารกในครรภ์ เด็กเกิดมาไอคิวต่ำ หรือปัญญาอ่อนได้
จึงขอเตือนผู้หญิงหากต้องการสวย สุขภาพดี ควรดูแลสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม พักผ่อนอย่างพอเพียง ทำจิตใจให้เบิกบาน ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้ผู้หญิงสวยและสุขภาพผิวดีได้


ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks