น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

1 ใน 8 ผู้สูงอายุสุขภาพย่ำแย่-เหงา

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

"หมอบรรลุ" เผยผู้สูงอายุไทย 1 ใน 8 คน สุขภาพแย่ 70-80% มีอาการเหงา เพราะเพื่อนเสียชีวิต แนะ สธ.จัดบริการผู้สูงอายุที่ รพ.สต. 3 เรื่องหลัก พร้อมเสนอปรับปรุงกฎหมายให้รองรับผู้สูงอายุ

1 ใน 8 ผู้สูงอายุสุขภาพย่ำแย่-เหงา

ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในงานประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุขประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน 2555 นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตประธานสภาผู้สูงอายุ ได้กล่าวระหว่างการอภิปรายเรื่อง 70 ปีไม่มีคิว การบริหารจัดการให้ผู้สูงอายุได้รับบริการที่ดี ว่า ขณะนี้ไทยมีผู้สูงอายุประมาณ 8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 12 ของประชากร ไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุมาแล้ว 2-3 ปี โดยผู้สูงอายุ 2 ใน 3 คนจะอยู่ในชนบท และมีผู้สูงอายุสุขภาพไม่ดีประมาณ 1 ล้านคน จึงเห็นว่าสถานบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งตั้งอยู่ในชนบทและอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุมากที่สุด ต้องให้ความสำคัญจัดบริการผู้สูงอายุ 3 เรื่องใหญ่ ประกอบด้วย 1.งานสร้างเสริมสุขภาพโดยให้ความรู้เรื่องโภชนาการ อาหารการกินให้ถูกต้อง การออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง และการสร้างสุขภาพจิต เนื่องจากผู้สูงอายุร้อยละ 70-80 จะมีอาการเหงาเพราะเพื่อนทยอยเสียชีวิตไป รพ.สต.จึงควรส่งเสริมให้ตั้งชมรมผู้สูงอายุทุกหมู่บ้านหรือทุกตำบล ซึ่งจะมีผู้สูงอายุเฉลี่ย 100- 1,000 คน โดยให้ผู้สูงอายุดำเนินการกันเองเพื่อผู้สูงอายุด้วยกัน การมีชมรม สมาชิกมีการพบปะ ทำกิจกรรมร่วมกัน จะช่วยให้ผู้สูงอายุทุกคนคลายเหงาและมีสุขภาพจิตดีขึ้น ชมรมจะเป็นกุญแจดอกสำคัญนำไปสู่การดำเนินงานกับผู้สูงอายุด้านอื่นๆ

นพ.บรรลุ กล่าวอีกว่า 2.งานบริการดูแลป้องกันโรค เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และ 3.การรักษาพยาบาล เมื่อผู้สูงอายุป่วยหากได้รับบริการใกล้บ้านจะสะดวกมาก เนื่องจากร้อยละ 30 ของผู้สูงอายุที่ไปพบแพทย์ เป็นผู้ไม่มีเงินและเจ้าหน้าที่ควรใช้คำพูดง่ายๆสื่อสารความเข้าใจเนื่องจากผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 16 ไม่ได้เข้าโรงเรียน

ด้าน นพ.วีระพล ธีระพันธ์เจริญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากที่โรงพยาบาลจัดบริการผู้สูงอายุ 70 ปีที่แผนกผู้ป่วยนอกโดยไม่มีคิว ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 มีผู้สูงอายุใช้บริการวันละ 200 คนจากผู้ใช้บริการทั้งหมดเฉลี่ยวันละ 1,200 คน ส่วนใหญ่เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาและกระดูก จากการประเมินผลพบว่าผู้สูงอายุพอใจ กลับบ้านเร็วขึ้น ผู้สูงอายุมีความคาดหวังว่าบริการที่ดีไม่ใช่แค่เร็ว แต่ต้องสะดวก เอื้อเฟื้อ เข้าใจ และให้ผู้สูงอายุพูดคุยมีสังคมด้วย

"อยากเสนอการบริการผู้สูงอายุให้แก่กระทรวงสาธารณสุขคือ ให้ดูแลผู้สูงอายุทุกมิติ การจัดบริการต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของผู้สูงอายุ ให้กระทรวงฯ พัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุระยะยาว เตรียมผู้ให้บริการ รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายให้รองรับผู้สูงอายุโดยให้ยึดถือว่าผู้สูงอายุคือผู้ที่มีบุญคุณต่อครอบครัวต่อประเทศ ดูแลผู้สูงอายุเสมือนเป็นบุคคลในครอบครัวเป็นปูย่าตายายจะทำให้บริการดูแลผู้สูงอายุของไทยเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบและอบอุ่นใจ" นพ.วีระพล กล่าว


ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ย้ำเตือน“ภัยเห็ดป่า” ปีนี้พบป่วย 400 ราย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนภัยเห็ดป่า ปีนี้พบผู้ป่วยเปิบเห็ดป่าพิษ 400 ราย อายุน้อยที่สุดเพียง 1 เดือน เสียชีวิต 12 ราย เร่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจประชาชนในการกินเห็ดป่า หากพบผู้ป่วยประเภทนี้ให้รับไว้ในโรงพยาบาลจนกว่าจะหายเป็นปกติทุกราย ย้ำความเชื่อตรวจสอบเห็ดพิษ 4 วิธีเดิมใช้การไม่ได้ผล และเด็กอ่อนกินนมแม่มีสิทธิได้รับพิษเห็ดด้วย 

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูฝน หลายพื้นที่มีฝนตกชุก ประชาชนในพื้นที่ชนบทโดยเฉพาะแหล่งที่มีพื้นที่ป่าธรรมชาติ มักเข้าไปเก็บเห็ดป่านำมารับประทานในบ้าน หรือนำไปจำหน่าย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบเฝ้าระวังผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุและการป้องกัน พบว่าสถานการณ์ใน ปีนี้น่าเป็นห่วง จำนวนผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดป่าที่มีพิษมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าช่วงปี 2550-2554 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2555 สำนักระบาดวิทยารายงานทั่วประเทศพบผู้ป่วย 400 ราย มากที่สุดที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสียชีวิต 12 ราย คิดเป็นอัตราตาย ร้อยละ 3 

นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวว่า ผู้ป่วยที่มีอายุน้อยที่สุดพบที่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นทารกอายุเพียง 1 เดือน ซึ่งได้รับพิษเห็ด จากการกินนมของแม่ที่รับประทานแกงเห็ดป่าพิษเข้าไป แสดงว่าพิษของเห็ดสามารถผ่านทางน้ำนมได้ ด้วย แต่รายนี้แพทย์ช่วยชีวิตได้ทัน ส่วนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผลการสอบสวนโรคทั้งจากผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตพบว่า เกิดมาจากการรับประทานเห็ดป่าพิษตระกูลอะมานิต้า(Amanita)ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเข้าไป ที่รู้จัก เช่น เห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดตระกูลนี้จะมีสารอะมาท็อกซิน(Amatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษชนิดร้ายแรงที่สามารถทำให้ตับและไตวายได้ จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ 1.อุบลราชธานี 42 ราย 2.เลย 39 ราย 3.สระบุรี และอุดรธานี จังหวัดละ 25 ราย และ5.นครพนม 21 ราย ซึ่งผู้ป่วยที่เสียชีวิต 12 ราย อยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน 9 ราย เชียงใหม่ 1 ราย และ เพชรบูรณ์ 2 ราย 

นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากเห็ดป่าพิษจำนวนมาก เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อที่ผิดหรือมีความเข้าใจเรื่องเห็ดป่าที่มีพิษยังไม่ถูกต้อง สรุปได้ 4 ความเชื่อ ได้แก่ 1.คิดว่าเห็ดที่เก็บมาจากที่ที่เคยเก็บมาก่อนหรือเก็บเป็นประจำทุกปีจะไม่มีพิษ 2. เห็ดที่เก็บมามีรอยแมลงหรือรอยสัตว์กัดแทะอยู่แล้วแสดงว่ากินได้ 3. ใช้วิธีการทดสอบเห็ดพิษตามความเชื่อดั้งเดิมและปฏิบัติกันต่อมา เช่น หุงพร้อมกันกับข้าว ต้มกับช้อนเงิน หรือแช่ในน้ำข้าว หากเห็ดไม่เปลี่ยนเป็นสีดำ แสดงว่ากินได้ และ 4. เชื่อว่าการนำเห็ดมาปรุงด้วยความร้อนสูง เช่นต้ม แกง จะสามารถทำลายพิษเห็ดได้ การป่วยและเสียชีวิตแสดงให้เห็นว่าวิธีการที่กล่าวมา ไม่สามารถพิสูจน์เห็ดพิษได้จริง ทำให้เมื่อรับประทานเห็ดเข้าไปแล้วก็จะมีอาการเจ็บป่วยตามมา หรือบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต 

ดังนั้นเพื่อป้องกันและลดการเสียชีวิตของประชาชน ได้กำชับให้สถานบริการในสังกัดทุกแห่ง หากพบผู้ป่วยจากเห็ดพิษ ให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือนัดเพื่อติดตามอาการทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปกติ เนื่องจากเห็ดพิษชนิดร้ายแรงจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนภายใน 24 ชั่วโมงแรก แต่หลังจากผ่าน 24 ชั่วโมงไปแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น ได้แก่ การทำงานของตับและไตล้มเหลว ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา และในพื้นที่ที่มีเห็ดป่าตามธรรมชาติมาวางขายตามตลาด ควรมีการสุ่มตัวอย่างเห็ดป่าเหล่านั้นมาตรวจคัดแยกชนิด และตรวจหาสารพิษเป็นระยะๆในช่วงฤดูกาลที่มีเห็ดของทุกปี เพื่อความปลอดภัยประชาชน 

นอกจากนี้ หากมีผู้ป่วยในพื้นที่หรือเคยมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากเห็ดพิษ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ หรือรณรงค์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการนำเห็ดป่ามารับประทาน ผ่านช่องทางสื่อต่างๆในพื้นที่ เช่น วิทยุชุมชน หอกระจายข่าว หรือกระดานแจ้งข่าวสารตามหมู่บ้าน เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึงอันตรายจากการกินเห็ดป่า ไม่ควรเก็บเห็ดป่ามารับประทาน โดยเฉพาะเห็ดที่มีลักษณะเป็นก้อนกลมรีคล้ายไข่ เช่น เห็ดไข่ห่าน เห็ดโม่งโก้ง เห็ดระโงก หรือเห็ดระงากที่ยังเป็นดอกอ่อน เพราะเห็ดสกุลนี้ ขณะเป็นดอกอ่อนจะมีลักษณะเหมือนกันหมด ทำให้ยากต่อการคัดแยกว่าชนิดไหนเป็นเห็ดพิษ ขอให้หญิงแม่ลูกอ่อนที่ให้นมบุตรไม่ควรรับประทานอาหารที่ปรุงจากเห็ดป่า เพราะหากเป็นเห็ดพิษ เด็กที่ดูดนมแม่จะได้รับสารพิษของเห็ดทางน้ำนมด้วยเช่นกัน ทั้งนี้หากรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นเห็ดป่าเข้าไป แล้วมีอาการผิดปกติ เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที แจ้งประวัติการกินเห็ดให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย เพื่อที่จะสามารถให้การดูแลอย่างถูกวิธี 


ที่มา : สำนักสารนิเทศและประชาสัมพันธ์กระทรวงสาธารณสุข
PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks