เปลือกไข่นอกจากจะช่วยให้ไฟติดได้
ง่ายขึ้น โดยที่ขณะก่อไฟให้ทุบเปลือกไข่จนแตกละเอียด
แล้วใช้กระดาษห่อมัดไว้วางข้างใต้ฟืนจะทำให้ไฟแรงขึ้น
หรือจะนำเปลือกไข่ไปย่างไฟให้เกรียม นำไปวางตรงที่มีมดชอบมาชุมนุมกัน
มดก็จะไม่มาบริเวณนั้นอีกเลย
เปลือกไข่ยังมีประโยชน์ใช้สอยในด้านเป็นเครื่องมือทำความสะอาดสามารถนำไป ใช้ขัดล้างอ่างล้างหน้าอ่างอาบน้ำและเครื่องใช้เซรามิคทั้งหลาย ใช้แทนแปรงล้างขวดหรือภาชนะที่มีปากแคบ หรือจะใช้เป็นปุ๋ยสำหรับต้นไม้รอบบ้าน
งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ (Ohio University) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เปลือกไข่อาจใช้เป็นวัตถุดิบช่วยผลิตก๊าซไฮโดรเจน เพื่อไปผสมกับก๊าซออกซิเจนที่ใช้กำเนิดพลังงานไฟฟ้าของเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ได้ด้วยต้นทุนที่ถูกลง
งานวิจัยระบุว่า เปลือกไข่มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ไฮโดรเจนบริสุทธิ์สามารถแยกออกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โดยการเติมเปลือกไข่ลงไปในขั้นตอนการผลิตก๊าซไฮโดรเจน แคลเซียมออกไซด์ (Calcium oxide) ที่อยู่ในเปลือกไข่ จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ ทำให้กระบวนการผลิตสะอาดขึ้น และเมื่อนำเปลือกไข่ที่ใช้แล้วไปฝังดิน ก็จะเป็นการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นออก โดยไม่ปล่อยมันสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย
งานวิจัยสรุปด้วยว่า ปริมาณขยะเปลือกไข่ที่คนอเมริกันทิ้งไว้ทั่วประเทศมีมากถึง 455,000 ตัน นั้นมากพอที่จะผลิตก๊าซไฮโดรเจนได้มากถึง 35 พันล้านลูกบาศก์ฟุตเมื่อเทียบเท่ากับก๊าซถ่านหิน ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานเชื่อว่าไฮโดรเจนอาจกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ สำคัญในอนาคต แต่นักวิจัยจะต้องพัฒนาวิธีการที่เหมาะสมในการผลิตไฮโดรเจนจำนวนมากต่อไป
ที่มา : มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย เรียบเรียงโดยสมุย
เปลือกไข่ยังมีประโยชน์ใช้สอยในด้านเป็นเครื่องมือทำความสะอาดสามารถนำไป ใช้ขัดล้างอ่างล้างหน้าอ่างอาบน้ำและเครื่องใช้เซรามิคทั้งหลาย ใช้แทนแปรงล้างขวดหรือภาชนะที่มีปากแคบ หรือจะใช้เป็นปุ๋ยสำหรับต้นไม้รอบบ้าน
งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ (Ohio University) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เปลือกไข่อาจใช้เป็นวัตถุดิบช่วยผลิตก๊าซไฮโดรเจน เพื่อไปผสมกับก๊าซออกซิเจนที่ใช้กำเนิดพลังงานไฟฟ้าของเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ได้ด้วยต้นทุนที่ถูกลง
งานวิจัยระบุว่า เปลือกไข่มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ไฮโดรเจนบริสุทธิ์สามารถแยกออกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โดยการเติมเปลือกไข่ลงไปในขั้นตอนการผลิตก๊าซไฮโดรเจน แคลเซียมออกไซด์ (Calcium oxide) ที่อยู่ในเปลือกไข่ จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ ทำให้กระบวนการผลิตสะอาดขึ้น และเมื่อนำเปลือกไข่ที่ใช้แล้วไปฝังดิน ก็จะเป็นการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นออก โดยไม่ปล่อยมันสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย
งานวิจัยสรุปด้วยว่า ปริมาณขยะเปลือกไข่ที่คนอเมริกันทิ้งไว้ทั่วประเทศมีมากถึง 455,000 ตัน นั้นมากพอที่จะผลิตก๊าซไฮโดรเจนได้มากถึง 35 พันล้านลูกบาศก์ฟุตเมื่อเทียบเท่ากับก๊าซถ่านหิน ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานเชื่อว่าไฮโดรเจนอาจกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ สำคัญในอนาคต แต่นักวิจัยจะต้องพัฒนาวิธีการที่เหมาะสมในการผลิตไฮโดรเจนจำนวนมากต่อไป
ที่มา : มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย เรียบเรียงโดยสมุย