น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

อย่าตระหนก “โรคมือ เท้า ปาก” ล้างมือช่วยได้

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โรคมือ เท้า ปาก อาจไม่น่ากลัวอย่างคิด พร้อมตอบข้อสงสัย ผู้ใหญ่มีสิทธิ์ป่วยได้ไหม ใช่โรคเดียวกับปากเท้าเปื่อยหรือไม่
ขณะที่ข่าวการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก กำลังเป็นที่สนใจ 'มุมสุขภาพ' มีข้อมูลควรรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยไว้ว่า โรคมือ เท้า ปาก คือกลุ่มอาการหนึ่งของโรคติดเชื้อเอนเทอโรไวรัส พบบ่อยในเด็กทารก เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
สำหรับเชื้อเอนเทอโรไวรัส สาเหตุของโรคนั้นมีหลายชนิด เช่น คอกแซกกี เอ ชนิดย่อยต่างๆ, คอกแซกกี บี, เอคโคไวรัส, แอนเทอโรไวรัส 71 ส่วนที่พบบ่อยสุด คือ คอกแซกกี เอ 16
ผลจากการติดเชื้อไวรัสนี้จะทำให้มีไข้ มีจุดหรือผื่นแดงอักเสบในปาก จากนั้นจะกลายเป็นตุ่มพองใส ไม่คันแต่กดแล้วเจ็บ ซึ่งมักเกิดขึ้นที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม นอกจากนี้ยังอาจเกิดที่ฝ่ามือ นิ้วเท้า และฝ่าเท้า ทว่าบางรายที่ติดเชื้ออาจไม่ปรากฏอาการตุ่มพองตามบริเวณที่ระบุข้างต้น แต่กลับมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวมน้ำ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ก้านสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ระบบหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว จนทำให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้มีสัญญาณอันตราย เมื่อเกิดอาการต้องรีบส่งแพทย์ คือ ไข้สูงไม่ลด ซึม อาเจียนบ่อย หอบ แขนขาอ่อนแรง และเกิดภาวะอัมพาตคล้ายโปลิโอ
การระบาดของโรคมือ เท้า ปาก เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะเขตร้อนชื้น เกิดแบบประปรายตลอดปี พบบ่อยช่วงหน้าฝนที่มีอากาศเย็นและชื้น การติดต่อมีทั้งได้รับเชื้อจากอุจจาระ ฝอยละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือน้ำในตุ่มพองหรือแผลของผู้ป่วยกระเด็นเข้าปาก ส่วนการติดต่อผ่านทางน้ำหรืออาหารมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย
อย่างไรก็ตาม การแพร่ติดต่อเกิดขึ้นค่อนข้างง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย แม้อาการทุเลาลงแล้ว ก็ยังคงแพร่เชื้อได้บ้าง เนื่องจากเชื้อจะถูกขับออกมากับอุจจาระต้องใช้เวลานานราว 6-8 สัปดาห์
วิธีการรักษาโรคมือ เท้า ปาก แพทย์จะรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสชนิดนี้โดยเฉพาะ โรคนี้หากผู้ป่วยกินได้และพักผ่อนเพียงพอ อาการก็จะไม่รุนแรง และมักหายได้เองในช่วง 7-10 วัน ที่สำคัญหากผู้ป่วยเป็นเด็กทารก หรือเด็กเล็ก และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังอาการ แทรกซ้อนที่รุนแรง
กรณีที่พบว่า บุตรหลานป่วยโรคมือ เท้า ปาก ควรรีบพาเด็กพบแพทย์ แจ้งคุณครูที่โรงเรียน หยุดรักษาตัวที่บ้าน 5-7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ควรพักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ใช้ผ้าปิดจมูกเมื่อไอจาม อย่างไรก็ตาม ผู้เลี้ยงดูผู้ป่วยต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระเด็กป่วย
ในเรื่องการป้องกัน โรคนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้นจึงต้องรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลให้ดี เช่น ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังขับถ่าย ทว่าเชื้อไวรัสก่อโรคมือ เท้า ปาก ก็ถูกทำลายได้ไม่ยาก โดยแสงอุลตราไวโอเล็ตในแสงแดด ในสภาพที่แห้ง เชื้อจะมีชีวิตอยู่ไม่นาน รวมถึงการทำลายโดยการต้มที่ 50-60 องศาเซลเซียส นาน 30 ปี, ถูกน้ำยาซักล้างทั่วไป,  และโดยวิธีทำให้ปราศจากเชื้อ
ข้อสงสัยที่ว่า ผู้ใหญ่สามารถติดโรคมือ เท้า ปาก จากเด็กได้หรือไม่ ตามข้อมูลของกรมควบคุมโรค เผยว่า ผู้ใหญ่มักมีภูมิต้านทานต่อโรคนี้จากการได้รับเชื้อขณะเป็นเด็ก โดยภูมิต้านทานนี้จะจำเพาะกับชนิดไวรัสที่เคยได้รับ หากได้รับเชื้อใหม่ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ก็สามารถป่วยได้ โดยส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการหรือมีอาการเล็กน้อย แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังเด็กหรือผู้อื่นได้ ส่วนกรณีหญิงตั้งครรภ์ได้รับเชื้อ เพื่อความปลอดภัยก็ควรพบแพทย์ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการรายงานว่า มีผลทำให้แท้งบุตร หรือเด็กพิการ
สำหรับผู้ที่กำลังสับสนระหว่างโรคมือ เท้า ปาก กับโรคปากเท้าเปื่อย ว่าใช่โรคเดียวกันหรือไม่? กรมควบคุมโรค ไขคำตอบไว้ว่า โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่พบเฉพาะในคน และติดต่อจากคนสู่คน ขณะที่โรคปากเท้าเปื่อย ไม่ได้เกิดจากไวรัสตัวเดียวกัน ทั้งยังเป็นโรคติดต่อที่เกิดกับสัตว์กีบ อาทิ โค กระบือ แพ แกะ สุกร สัตว์จะเป็นแผลที่ปากและกีบเท้า มีอัตราป่วยตายต่ำ ไม่จัดเป็นโรคติดต่อถึงคน


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่เป็นโรค ติดเชื้อทางเดินหายใจตอนบนที่พบบ่อยเกือบตลอดปี เป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ เด็กเล็กอาจเป็นปีละหลายครั้ง โรคหวัดมักเป็นในฤดูหนาว ฤดูฝน หรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง และสามารถติดต่อกันได้ง่ายในสถานที่มีกลุ่มคน เช่น โรงเรียน สถานที่ทำงาน เป็นต้น

โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีอยู่มากกว่า 200 ชนิดของกลุ่มไวรัสต่างๆ แต่ที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มไรโนไวรัส (rhinovirus) ซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิด และเป็นกลุ่มไวรัสที่ติดต่อได้ง่าย นอกจากนี้ มีกลุ่มไวรัสโคโรนา (coronavirus) กลุ่มไวรัสเอนเทอโร (enterovirus) เป็นต้น ส่วนไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (influenzavirus) มีอยู่ 3ชนิดใหญ่เรียกว่า ชนิด เอ บี และซี ซึ่งแต่ละชนิดยังแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยอีกมาก โดยเชื้อไวรัสชนิดเอทำให้เกิดโรคระบาดมากกว่าชนิดอื่นจึงก่อให้เกิดโรคบ่อย ที่สุดและมีอาการรุนแรงมากกว่า นอกจากนั้นสามารถกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ซึ่งมักจะรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิม การเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ในแต่ละครั้งจะเกิดจากเชื้อไวรัสเพียง 1สายพันธุ์ย่อย เมื่อหายแล้วร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตัวนั้น และถ้าเป็นหวัดครั้งใหม่จะเกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่หมุนเวียนไป

เชื้อไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย สามารถแพร่เชื้อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้รวดเร็วด้วยการหายใจ ไอ จาม สัมผัสน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย โดยมีระยะติดต่อ 1วันก่อนเกิดอาการ และ 5วันหลังจากมีอาการ

ไข้หวัดจะมีอาการคอแห้ง คันคอ คัดจมูก มีน้ำมูกใส จาม และไอ อาจมีหรือไม่มีเสมหะ บางครั้งอาการไออาจนาน 2-3 สัปดาห์

ส่วนไข้หวัดใหญ่จะมีความรุนแรงมากกว่าไข้หวัด แต่อาการค่อนข้างเร็วและส่วนใหญ่จะมีอาการภายใน 1-4 วัน มีไข้สูง 39-40 องศา ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ-ข้อ และอ่อนเพลียมาก ปวดกระบอกตา ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บคอ และคอแดง มีน้ำมูกไหล ไอแห้งๆ อาจไออยู่นาน 1-2 สัปดาห์ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนหรือมีอุจจาระร่วง

โรคไข้หวัดใหญ่ถือว่าเป็นโรคติด เชื้อรุนแรง สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ จะรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายและเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นจึงควรใส่ใจการป้องกันโรคหวัด ได้แก่

1.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอนหรือนอนรวมกับผู้ที่เป็นโรคหวัด

2.ไม่คลุกคลีใกล้ชิดหรือใช้ของร่วมกับผู้ที่เป็นโรคหวัด เช่น แก้วน้ำ ปากกา เป็นต้น

3.ล้างมือบ่อยๆ หลังการสัมผัสสิ่งของที่อาจปนเปื้อนและหลีกเลี่ยงการใช้มือขยี้ตาแคะจมูกหรือเข้าปาก

4.หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และอย่าตรากตรำงานหนัก

5.ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้สูงอายุสวมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล ไม่ควรตากฝนหรือตากแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานานๆ

6.ไม่ควรอยู่ในสถานที่มีคนแออัด โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของโรคหวัด

7.ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สำหรับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ หรือมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อน วัคซีนจะป้องกันโรคได้ต่อปี และหลังฉีด 2สัปดาห์ ร่างกายจึงมีภูมิคุ้มกันสูงพอในการป้องกันโรค ควรฉีดก่อนมีการระบาดของโรคหวัด







ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน  โดย นพ.วิชัย วิริยะอุตสาหกุล ฝ่ายผู้ป่วยนอก รพ.จุฬาลงกรณ์

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

ผลวิจัยชี้ไม่ออกกำลังกายทำคนตายปีละกว่า 5 ล้าน


วารสารทางการแพทย์เดอะแลนเซ็ท (The Lancet) เผยแพร่รายงานระบุ การไม่ออกกำลังกายเท่าที่ควร สามารถทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเท่ากับการสูบบุหรี่ และคร่าชีวิตประชาชนปีละกว่า 5 ล้านคนทั่วโลก

ผลการวิจัยของนักวิจัย 33 คนจากทั่วโลก ระบุว่า ประชาชนวัยผู้ใหญ่มากถึงเกือบ 1 ใน 3 ไม่ได้ออกกำลังกายมากพอ และเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5. 3 ล้านคน จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 57 ล้านคนทั่วโลกในปี 2551 โดยการไม่ออกกำลังกายเป็นปัจจัยที่คร่าชีวิตประชาชนได้เทียบเท่ากับการสูบ บุหรี่หรือโรคอ้วน

รายงานระบุว่า การขาดการออกกำลังกาย เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ถึง 6% โรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 7% และโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ 10% และหากลดจำนวนผู้ไม่ออกกำลังกายได้ 10% จะช่วยให้ลดอัตราการตายได้กว่า 5 แสนคนต่อปี

ปกติแล้ว  ร่างกายจำเป็นต้องออกกำลังเพื่อช่วยทำให้กระดูก กล้ามเนื้อ หัวใจและอวัยวะต่างๆทำงานได้ปกติ แต่สมัยนี้คนเดิน วิ่ง และปั่นจักรยานน้อยลงมากเพราะใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งในรถยนต์ นั่งหน้าคอมพิวเตอร์มากขึ้น

รายงานฉบับนี้ กำหนดว่า การไม่ออกกำลังกายเท่าที่ควร คือ การเคลื่อนไหวร่างกายในระดับปานกลางได้ไม่ถึง 30 นาทีเป็นเวลา 5 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์ หรือ การออกกำลังกายหักโหมได้ไม่ถึง 20 นาที 3 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์  และผลการศึกษาพบว่า มีประชากรอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปเกือบ 1.5  ล้านคน ไม่ได้ออกกำลังกายเท่าที่ควรตามมาตรฐานดังกล่าว

นักวิจัย ระบุว่า พฤติกรรมการไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กำลังระบาดในวงกว้าง จึงควรเร่งรณรงค์ให้ตระหนักถึงพิษภัยของการไม่ออกกำลังกาย และส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายมากขึ้น เช่น การเพิ่มทางเดินทางเท้า  และทางวิ่งจักรยานที่ปลอดภัยตามถนนในเมือง มีวิชาพละศึกษามากขึ้น  ในหลักสูตรการเรียนการสอน และจัดสร้างสถานที่ออกกำลังกายสาธารณะ





ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

เสียงแหบกับมะเร็ง

ภาพผู้ป่วยที่มีรูหายใจบริเวณด้าน หน้าลำคอหรือเสียงของผู้ป่วยคนเดียวกันที่ฟังแล้วแปลกๆ ไม่เหมือนเสียงของคนปกติ ถ้าใครไม่เคยเห็นหรือไม่เคยได้ยินก็ไปหาดูจากคำเตือนข้างซองบุหรี่หรือสปอต โฆษณารณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ เพราะนั่นเป็นสภาพของผู้ป่วยมะเร็งกล่องเสียงหลังจากได้รับการผ่าตัดเอา กล่องเสียงออกทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
เนื่องจากกล่องเสียงเป็นอวัยวะส่วนต้นของทางเดินหายใจต่อกับหลอดลมที่ลม หายใจต้องผ่านเข้าออก ตำแหน่งของกล่องเสียงก็อยู่ตรงกับตำแหน่งลูกกระเดือกซึ่งเป็นกระดูกอ่อนที่ เป็นส่วนประกอบของกล่องเสียง และยังมีสายเสียงซึ่งเป็นกล้ามเนื้อเล็กๆ เป็นส่วนประกอบภายในของกล่องเสียงด้วยเช่นกัน การเปล่งเสียงของคนเราเกิดจากการที่ลมจากในปอดผ่านสายเสียงที่มีการขยับเกิด การสั่น ทำให้เกิดเสียงสูงเสียงต่ำตามความตึงความหย่อนของสายเสียง ครั้นเมื่อกล่องเสียงถูกตัดทิ้งไปทั้งหมด ก็ต้องเอาส่วนของหลอดลมมาเปิดที่ลำคออย่างถาวรเพื่อให้อากาศผ่านเข้าออก โดยตรงและแน่นอนที่สุดคือไม่สามารถพูดได้เหมือนอย่างเคย ส่วนใหญ่ต้องฝึกพูดโดยการสร้างเสียงจากหลอดอาหารแทน ทำให้คุณภาพเสียงไม่เหมือนเสียงที่ผ่านกล่องเสียงตามปกติ
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นภาพตอนท้ายของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้ว โรคนี้พบมากในเพศชายมากกว่าเพศหญิง มักพบในอายุ 50 ปีขึ้นไป นอกจากการสูบบุหรี่จัดจะเป็นตัวการสำคัญของโรคนี้แล้ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็เป็นสาเหตุสำคัญเช่นเดียวกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเสียงแหบโดยไม่มีอาการเจ็บคอร่วมด้วยนานกว่า 2 สัปดาห์และไม่มีสาเหตุที่ทำให้เสียงแหบชัดเจน เช่น ใช้เสียงมากหรือมีการอักเสบหรือระคายเคืองของทางเดินหายใจส่วนบน ในรายที่มีการลุกลามมากขึ้นอาจมีอาการเจ็บคอเรื้อรัง มีความรู้สึกไม่สบายในลำคอเหมือนมีก้างติดคอ กลืนอาหารลำบาก หายใจขัดหายใจลำบาก มีเสมหะปนเลือด มีก้อนที่ด้านข้างคอโตจากมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลือง การวินิจฉัยโรคก็ไม่ยุ่งยากอะไร ส่วนใหญ่ใช้กระจกส่องดูกล่องเสียง ดูลักษณะของกล่องเสียงว่ามีเนื้องอกผิดปกติหรือไม่ ทั้งในขณะผู้ป่วยหายใจเข้าออกและกำลังออกเสียง ในบางรายอาจต้องใช้กล้องส่องตรวจดูบริเวณกล่องเสียง ในกรณีที่ตรวจดูกล่องเสียงยากหรือตรวจด้วยกระจกไม่ได้
ในเรื่องการรักษาหากผู้ป่วยเป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น เช่น เนื้องอกอยู่ที่ตำแหน่งของสายเสียง พวกนี้จะแสดงอาการตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก ทำให้มีโอกาสรักษาหายขาดได้มาก การรักษาน้อยๆ ตั้งแต่การใช้เลเซอร์ การใช้รังสีรักษาหรือการผ่าตัดกล่องเสียงออกบางส่วนก็เพียงพอ ไม่มีปัญหาเรื่องการพูดหรือการหายใจแต่อย่างไร แต่ในกรณีที่เป็นเนื้องอกที่ตำแหน่งอื่นของกล่องเสียง อาการเสียงแหบมักจะแสดงออกในระยะที่โรคลุกลามแล้ว นอกจากการตัดกล่องเสียงออกทั้งหมดแล้วอาจต้องตัดต่อมน้ำเหลืองที่คอหรือใช้ การฉายรังสีร่วมด้วย
จำไว้นะครับ ถ้าอยู่ดีๆ ก็มีอาการเสียงแหบชนิดที่ไม่มีสาเหตุชัดเจนหรือมีความรู้สึกไม่สบายในลำคอ เหมือนมีก้างติดคอนานเกิน 2 สัปดาห์ก็อย่านิ่งดูดาย ควรรีบไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านหู คอ จมูก ให้ส่องตรวจดูในคอบริเวณกล่องเสียงเพื่อความสบายใจ ไม่ใช่แค่ตรวจคอเฉพาะภายนอกแบบทั่วไปนะครับ...ขอบอก


ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

PG&P
สโนว์  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี  pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks