ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีอยู่มากกว่า 200 ชนิดของกลุ่มไวรัสต่างๆ แต่ที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มไรโนไวรัส (rhinovirus) ซึ่งมีมากกว่า 100 ชนิด และเป็นกลุ่มไวรัสที่ติดต่อได้ง่าย นอกจากนี้ มีกลุ่มไวรัสโคโรนา (coronavirus) กลุ่มไวรัสเอนเทอโร (enterovirus) เป็นต้น ส่วนไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (influenzavirus) มีอยู่ 3ชนิดใหญ่เรียกว่า ชนิด เอ บี และซี ซึ่งแต่ละชนิดยังแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยอีกมาก โดยเชื้อไวรัสชนิดเอทำให้เกิดโรคระบาดมากกว่าชนิดอื่นจึงก่อให้เกิดโรคบ่อย ที่สุดและมีอาการรุนแรงมากกว่า นอกจากนั้นสามารถกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ซึ่งมักจะรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์เดิม การเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ในแต่ละครั้งจะเกิดจากเชื้อไวรัสเพียง 1สายพันธุ์ย่อย เมื่อหายแล้วร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตัวนั้น และถ้าเป็นหวัดครั้งใหม่จะเกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่หมุนเวียนไป
เชื้อไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่มีอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วย สามารถแพร่เชื้อจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้รวดเร็วด้วยการหายใจ ไอ จาม สัมผัสน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย โดยมีระยะติดต่อ 1วันก่อนเกิดอาการ และ 5วันหลังจากมีอาการ
ไข้หวัดจะมีอาการคอแห้ง คันคอ คัดจมูก มีน้ำมูกใส จาม และไอ อาจมีหรือไม่มีเสมหะ บางครั้งอาการไออาจนาน 2-3 สัปดาห์
ส่วนไข้หวัดใหญ่จะมีความรุนแรงมากกว่าไข้หวัด แต่อาการค่อนข้างเร็วและส่วนใหญ่จะมีอาการภายใน 1-4 วัน มีไข้สูง 39-40 องศา ปวดศีรษะรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ-ข้อ และอ่อนเพลียมาก ปวดกระบอกตา ตาแดง น้ำตาไหล เจ็บคอ และคอแดง มีน้ำมูกไหล ไอแห้งๆ อาจไออยู่นาน 1-2 สัปดาห์ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนหรือมีอุจจาระร่วง
โรคไข้หวัดใหญ่ถือว่าเป็นโรคติด เชื้อรุนแรง สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ จะรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายและเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นจึงควรใส่ใจการป้องกันโรคหวัด ได้แก่
1.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอนหรือนอนรวมกับผู้ที่เป็นโรคหวัด
2.ไม่คลุกคลีใกล้ชิดหรือใช้ของร่วมกับผู้ที่เป็นโรคหวัด เช่น แก้วน้ำ ปากกา เป็นต้น
3.ล้างมือบ่อยๆ หลังการสัมผัสสิ่งของที่อาจปนเปื้อนและหลีกเลี่ยงการใช้มือขยี้ตาแคะจมูกหรือเข้าปาก
4.หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และอย่าตรากตรำงานหนัก
5.ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้สูงอายุสวมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล ไม่ควรตากฝนหรือตากแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานานๆ
6.ไม่ควรอยู่ในสถานที่มีคนแออัด โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของโรคหวัด
7.ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สำหรับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ หรือมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคแทรกซ้อน วัคซีนจะป้องกันโรคได้ต่อปี และหลังฉีด 2สัปดาห์ ร่างกายจึงมีภูมิคุ้มกันสูงพอในการป้องกันโรค ควรฉีดก่อนมีการระบาดของโรคหวัด
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน โดย นพ.วิชัย วิริยะอุตสาหกุล ฝ่ายผู้ป่วยนอก รพ.จุฬาลงกรณ์
PG&P
สโนว์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น