นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเปิด เผยว่า การใช้ยาเพื่อรักษาโรคในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดการแพ้ยาที่ใช้ได้ บางรายอาจเกิดผื่นแพ้ยารุนแรง ซึ่งรวมถึงกลุ่มอาการสตีเวนส์ จอห์นสัน (Steven-Johnson syndrome เรียกชื่อย่อว่า SJS) และท็อกซิกอิพิเดอร์มอล เนโครไลซิส (toxic epidermal necrolysis เรียกชื่อย่อว่า TEN) โดยผู้ป่วยที่แพ้ยาชนิดนี้จะมีผื่นขึ้นตามลำตัว หรือมีการหลุดลอกของผิวหนัง รวมทั้งมีการอักเสบของเยื่อบุต่างๆ และความผิดปรกติของระบบอวัยวะสำคัญต่างๆ ร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอดหรือถึงแก่ชีวิตได้
ทั้งนี้ระหว่างปี พ.ศ.2527 -2553 ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยแพ้ยาร้ายแรงชนิด SJS/TEN ประมาณ 6,965 ราย และเสียชีวิต 260 ราย รายการยาที่สงสัยที่มีการรายงานมาก 10 อันดับแรก ได้แก่ ยาโคไตรม็อกซาโซล (Co-trimoxazole) ยาคาร์บามาซีพีน (Carbamazepine) ยาแอลโลพูรินอล (Allopurinol) ผลิตภัณฑ์ที่มีเนวิราปีนเป็นส่วนประกอบ(Nevirapine Containing product) ยาเฟนิทอยน์ (Phenytoin) ยาอะม็อกซีซิลิน (Amoxicillin) ยาฟิโนบาร์บิทอล (Phenobarbital) ยาไอบู โปรเฟน (Ibuprofen) ยาไรแฟมพิซิน (Rifampicin) และยาไอโซไนอะซิด (Isoniazid) ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอย่างน้อย 20,000 ถึงมากกว่า 100,000 บาทต่อราย ยังไม่รวมการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่ผู้ป่วยเสียโอกาสในการทำงานกรณีที่พิการ และกรณีเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
ผลการวิจัยทางเภสัชพันธุศาสตร์ พบว่า การแพ้ยาสัมพันธ์กับการมี HLA อัลลีล (allele) บางชนิดในพันธุกรรม ดังนั้นจึงมีการตรวจHLA อัลลีลก่อนการให้ยาโดยผู้ที่มีอัลลีลชนิดเสี่ยงควรเลี่ยงไปใช้ยาตัวอื่นแทน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่ออีกว่า งานวิจัยในประชากรของประเทศไทย พบว่า ผู้ป่วยที่มี HLA-B*1502allele มีความเสี่ยงต่อการเกิด SJS/TEN จากยาคาร์บามาซีพีน (Carbamazepine)เพิ่มขึ้น 55 เท่า องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) แนะนำให้ผู้ป่วยที่มาจากประเทศแถบเอเชียที่จำเป็นต้องได้รับยาคาร์บามาซีพีน ควรตรวจหา HLA-B*1502 อัลลีลก่อนเริ่มให้ยาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ SJS/TEN ต่อยาคาร์บามาซีพีน และผู้ป่วย ที่จำเป็นต้องได้รับยาแอลโลพูรินอล หากมี HLA-B*5801 อัลลีล จะเสี่ยงต่อการเกิด SJS/TEN เพิ่มขึ้นถึง 348 เท่า
"การตรวจสารพันธุกรรม HLA-B* 1502, HLA-B*5801 และ HLA-B*5701 เป็นวิธีการตรวจที่มีความสำคัญในการป้องกันภาวการณ์เกิดผื่นแพ้ยารุนแรง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้ดำเนินการพัฒนาวิธีการตรวจสารพันธุกรรม HLA-B*1502, HLA-B*5801 และ HLA-B*5701 ด้วยวิธี allele specific PCR เพื่อทดแทน การใช้น้ำยาสำเร็จรูปที่มีราคาแพงและต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการตรวจและได้ ถ่ายทอดเทคนิค
วิธีการตรวจดังกล่าวให้แก่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในส่วนภูมิภาคเพื่อ ให้บริการตรวจครอบคลุมทั้งประเทศ นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งเครือข่ายเภสัชพันธุศาสตร์ เพื่อหายีนเสี่ยงต่อการแพ้ยารุนแรง SJS/TEN (THAISCAR) สำหรับยาที่ยังไม่มีรายงาน" นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าว
=======
PG&P
สโนว์ PG&P ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น