ยังไม่ทันทำอะไร
ก็หมดเวลาไป 1 วันแล้ว ประโยคนี้มักได้ยินจากใครหลายๆ คน
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ดูเหมือนว่าเวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วัน
จะไม่เพียงพอต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ให้ครบตามที่ใจต้องการ
ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ
สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
ทุกอย่างต้องแข่งขันกับเวลาจนเกิดเป็นความกดดันและความเครียด
ทำให้หลายคนลืมที่จะดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง แม้แต่เรื่องง่ายๆ อย่างเช่น
การทานอาหารให้ตรงเวลาและให้ครบ 3 มื้อ และสิ่งที่ตามมาก็คือ
อาการของโรคระบบทางเดินอาหาร
นพ.สุริยา กีรติชนานนท์
อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินอาหารและตับ ให้ข้อมูลความรู้ว่า
อาการของโรคระบบทางเดินอาหารที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ คือ อาการอึดอัด
แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ บริเวณลิ้นปี่หรือเหนือสะดือ
อาการเหล่านี้ทางการแพทย์ใช้คำแทนว่า Dyspepsia (ดิสเป็บเซีย)
จากการสำรวจข้อมูลประชากรจำนวน 23,676 คน ใน 5
ประเทศของยุโรป พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีอาการเหล่านี้ถึงร้อยละ 32% (7,576 คน)
ในสหรัฐอเมริกาพบร้อยละ 25 และสำหรับประเทศไทยนั้น
มีข้อมูลจากสมาคมโรคทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย
ว่าคนไทยได้ประสบกับอาการนี้ถึงร้อยละ 20-25
และเป็นอาการที่พบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งในคลินิกทางเดินอาหาร
ช่วงที่พบบ่อยมากคือ อายุตั้งแต่ 40-45 ปีขึ้นไป
เนื่องจากเป็นอาการที่เกิดจากระบบการย่อยอาหารที่เสื่อมลงตามวัย
อาการดิสเป็บเซีย เป็นอาการที่เกิดในกระเพาะอาหาร
ลำไส้เล็กส่วนต้น ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มโรคออกเป็น 2 ชนิด คือ
กลุ่มผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพชัดเจนในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น
หรือศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า organic dyspepsia (ออแกนิก ดิสเป็บเซีย)
เช่น กระเพาะอาหารอักเสบรุนแรง มีแผล มีเชื้อโรคซ่อนอยู่
เนื้องอกในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้น
และอีกชนิดหนึ่ง คือ
กลุ่มผู้ป่วยที่ตรวจไม่พบโรคดังกล่าวด้วยวิธีส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารส่วน
บน หรือ Functional dyspepsia FD (ฟังชันนอล ดิสเป็บเซีย เอฟดี)
เกิดจากการที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กทำหน้าที่ผิดปกติไปจากเดิม
ซึ่งพบเป็นส่วนมากในผู้ป่วยที่มีอาการดิสเป็บเซีย
จากข้อมูลสำรวจผู้ป่วยที่มีอาการดิสเป็บเซียในประเทศไทย
1,100 คน พบว่าร้อยละ 60-90 ของผู้ป่วยมีอาการอยู่ในกลุ่มที่สองนี้
ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคด้วยกัน อาทิ กระเพาะบีบตัวไม่ได้
บีบตัวช้า กระเพาะไวต่ออาหารบางชนิด เช่น อาหารรสจัด
สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้การย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร
และการเคลื่อนตัวของอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กเป็นไปด้วยความลำบาก
เกิดการสะสมของฟองอากาศหรือแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้อึดอัด
แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ
นอกจากนี้ ในปัจจุบันอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
เกิดขึ้นในกลุ่มคนวัยทำงานและกลุ่มคนวัยเรียนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อันเนื่องมาจากรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป
โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องความเครียด พฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
หรือรับประทานอาหารด้วยความเร่งรีบ เคี้ยวไม่ละเอียด
ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ อาทิ แอลกอฮอล์ บุหรี่ กาแฟ น้ำอัดลม
อาหารไขมันสูง ทานอาหารอิ่มแล้วนอนในทันที ทานอิ่มเกินไป
หรือแม้แต่พูดคุยขณะรับประทานอาหาร เพราะเป็นการกลืนอากาศเข้าไปพร้อมอาหาร
จนส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ เหล่านี้ขึ้น
อาการในกลุ่ม ฟังชันนอล ดิสเป็บเซีย
นั้นไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่จะรบกวนคุณภาพชีวิตได้ ซึ่งผู้ที่มีอาการ
จำเป็นต้องปรับพฤติกรรมบางอย่าง
เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการนี้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น
รับประทานอาหารให้ตรงเวลา เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ไม่รับประทานอิ่มจนเกินไป
ไม่พูดคุยขณะรับประทานอาหาร หลังจากรับประทานอาหารก็ไม่ควรนอนทันที
และควรรักษาสมดุลการทำงานไม่ให้ตกอยู่ในภาวะเครียด
พร้อมออกกำลังกายและพักผ่อนอย่างพอดี เหมือนกับประโยคที่ว่า
สุขภาพที่ดีมีได้ด้วยตัวเราเอง
PG&P
สโนว์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม พีจีแอนด์พี pg&pthai พีจีแอนด์พีไทย pgpthai พีจีพี thaipgp เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ สกัดจากธัญพืช ธัญพืชสกัด
PGPTHAI คลิปตัวอย่าง PG&P FEED PG&P
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น