น้ำมันรำข้าว PG&P

น้ำมันรำข้าว PG&P
น้ำมันรำข้าว จมูกข้าว oryzanol

โบทานีก้า PG&P

โบทานีก้า PG&P
โบทานีก้า สูตรข้าวเหนืยวก่ำงอก

เอช พลัส H Plus PG&P

เอช พลัส H Plus PG&P
เอช พลัส กรดอะมิโนธรรมชาติ

ไฟรโตโปร Phyto-Pro

ไฟรโตโปร Phyto-Pro
ไฟรโตโปร คืนความแข็งแรงและความมั่นใจให้กับคุณสุภาพบุรุษ

'ไมโคพลาสมา'...โรคระบาดป้องกันได้

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

http://www.youtube.com/watch?v=AaHnAioC3ck&feature=share

กลายเป็นกระแสข่าวครึกโครม เมื่อพลทหารหลายสิบนายล้มป่วยลงด้วยโรคติดเชื้อประหลาด มีไข้สูง หายใจหอบเหนื่อยและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาจนถึงขั้นต้องปิดโรงพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ของเชื้อโรค "ไมโคพลาสมา (Mycoplasma)" ที่เป็นตัวการทำให้เกิดอาการดังกล่าว
ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ถือโอกาสนี้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคไมโครพลาสมา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคระบาดนี้เมื่อเร็วๆนี้ ว่า โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียขนาดเล็ก ชื่อ"Mycoplasma pneumonia" ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง ไอ หายใจหอบเหนื่อยจากการอักเสบของหลอดลมและปอด กลุ่มอายุที่ติดเชื้อได้บ่อยคือกลุ่มวัยเด็ก และเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคปอดอักเสบที่ติดในชุมชน ซึ่งถ้าปอดอักเสบจากเชื้อชนิดนี้ ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
สำหรับการระบาดนั้น เชื้อ Mycoplasma pneumonia พบได้ทุกช่วงอายุ โดยพบบ่อยในช่วงอายุน้อยกว่า 40ปี และพบบ่อยมากในเด็กเล็ก และวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20ปีมีโอกาสติดเชื้อได้ใกล้เคียงกันทั้งเพศชายและหญิง พบการติดเชื้อได้ตลอดปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน เชื้อนี้ติดต่อทางการหายใจหรือไอ จาม หรือจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจที่มีเชื้อ เช่น น้ำมูกหรือเสมหะ การระบาดส่วนใหญ่จะพบในชุมชนปิด เช่น ค่ายทหาร โรงเรียน เรือนจำ เมื่อเชื้อไมโคพลาสมาเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2-3สัปดาห์ (แตกต่างจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือปอดอักเสบจากไวรัสที่ใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์) อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ มีเพียงร้อยละ 5-10เท่านั้นที่จะเกิดอาการปอดอักเสบ
ส่วนอาการทั่วไปที่พบในผู้ป่วยนั้น 1.ไข้สูงมากกว่า 38องศาเซลเซียส อาจมีอาการหนาวสั่น 2.ไอแห้งๆ อาจมีเสมหะขาว อาการค่อยๆ เป็นมากขึ้น อาจไอเรื้อรังจนทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก 3.ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย 4.เจ็บคอ คันคอ อาการเจ็บคอจะไม่มาก คอแดงเล็กน้อยไม่มีหนอง 5.เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก (พบได้น้อย) 6.อาจพบผื่นแดงตามร่างกายลักษณะคล้ายไข้ออกผื่น(ส่าไข้) 7.ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะ ทำให้หายใจเหนื่อยหายใจเร็ว แต่ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติ
การรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไมโคพลาสมา สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่ม macrolides หรือ doxycycline ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลถ้ามีอาการหายใจหอบเหนื่อยมากหรือ มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก หากไม่ได้รับการรักษาอาการไข้จะเป็นอยู่ประมาณ 1สัปดาห์ อาการไอประมาณ 2-4สัปดาห์ บางรายอาการอาจเป็นนานถึง 6สัปดาห์ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นรายที่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
ส่วนอาการบ่งชี้ที่ควรไปพบแพทย์นั้นได้แก่ 1.ไข้สูง 2.อาการไอแห้งๆ บ่อยครั้งและเป็นระยะเวลานาน หรือไอเป็นเลือด 3.อาการหายใจหอบเหนื่อยหายใจเร็ว 4.อาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก 5.อาการแน่นหน้าอกด้านซ้าย หรือรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการแขนหรือขาอ่อนแรง หรือชักเกร็ง ซึมลง อาการซีด ปาก-ลิ้นสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม (สีน้ำปลาหรือสีโค้ก) หรือมีจุดเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนจากเชื้อไมโคพลาสมา 6.ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงได้ง่าย หากคุณมีอาการดังที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่นๆเท่านี้ก็จะเป็นการยับยั้งภัย ระบาดของโรค "ไมโคพลาสมา"ได้แล้ว.


ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม

Backlinks